เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก ล่อซื้อขบวนการค้ายาบ้า ที่ลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน กว่า 2 ล้านเม็ด แล้วมากระจายในพื้นที่ ก่อนถูกล่อซื้อถูกจับกุมตัวได้ 4 ราย ยาบ้า 164,000 เม็ด หนึ่งในผู้ต้องหา ยังติดกำไล EM อยู่
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 23 ก.พ. พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรเดช แจ่มแจ้ง ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาบ้าได้ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ทราบชื่อ นายยศไกร หรือยศ บุญตรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นาย ธีรพล หรือเบิร์ด โททรัพย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายศิริวัฒน์ หรือเล็ก พรมป้อม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/2 หมู่ 6 ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางยาบ้า 164,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีวิค ทะเบียน กล-6431 พิษณุโลก และนายพิทยา หรือช้าง เงี้ยวเกิด ชาวอำเภอพรหมพิราม
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.ธีรเดช แจ่มแจ้ง ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมชุดสืบสวน ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายยศไกร หรือยศ จำนวน 14 เม็ด ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.พรหมพิราม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจรถยนต์เก่งยี่ห้อฮอนด้า ซึ่งเป็นของผู้ต้องหา กลับพบยาบ้าถูกซุกซ้อนในช่องเก็บยางอะไหล่จำนวน จำนวน 164,000 เม็ด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลการจับกุมได้ผู้ต้องหาอีก 2 คน คือพิษณุโลก นาย ธีรพล หรือเบิร์ด และ นายศิริวัฒน์ หรือเล็ก ผู้รวมขบวนการซึ่งเปิดห้องพักในรีสอร์ทเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 รายในเครือขยายนี้คือนายณัฐกิจ หรือณัฐ ทับปาน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดของ สภ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งได้หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นผู้สั่งการการจำหน่ายยาเสพติดในคดีนี้
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่านายณัฐกิจ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ได้ใช้Facebook ชื่อ อาลีบาบา และLine มานะหรือ อาลี และได้ใช้โทรศัพท์สั่งการให้นายยศไกร และนายธีรพล ไปรับรถยนต์รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน บร-540 เชียงราย ที่มียาบ้าซุกซ้อนอยู่จำนวน 2 ล้านเม็ด มากระจายยาบ้ากันที่บริเวณสี่แยกบ้านกร่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยลงทุนซื้อรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่น ซีวิค ทะเบียน กล-6431 พิษณุโลก และนำยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ดซุกซ่อนไว้ ในช่องเก็บยางอะไหล่ และจอดทิ้งไว้ข้างทาง จากนั้นก็นำยาบ้าที่เหลือ ลำเลียงหลุดไปสู่ภาคใต้
ต่อมานายณัฐกิจ สั่งการให้นายศิริวัฒน์ มาขับรถยนต์เก๋ง ที่จอดไว้ข้างมามอบให้กับนายยศไกร อีกครั้งเพื่อแบ่งยาบ้าจำนวนไปจำหน่ายให้กับลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นในเมืองพิษณุโลก ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุมตัวได้ในที่สุด จากการตรวจสอบยังพบว่านายยศไกร ยังได้มีกำไล EM ที่ข้อเท้า เนื่องจากยังถูกคดีครอบครองยาเสพติดอีกด้วย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลาดข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินดคีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และเตรียมขยายผลหาผู้กระทำผิดรายใหญ่ต่อไป