พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เปิดเผยผ่าน “กีฬาเดลินิวส์” ถึงประเด็นการเฝ้าระวัง การเล่นแบบสมยอม ในรูปแบบต่างๆ ในการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพทั้งไทยลีก 1, 2 และไทยลีก 3 เข้าสู่ช่วงสุดท้าย ก็จะจบการแข่งขัน แต่ละลีกมีทีมที่ต้องสู้เต็มที่ทั้งการแย่งแชมป์, ขึ้นชั้น, หนีตกชั้นว่า “ในช่วงสุดท้าย จะเข้าทางตรงถึงเส้นชัย ก็จะมีเรื่องต้องเฝ้าระวังกันทุกปี
ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เน้นย้ำถึงผู้เกี่ยวข้อง ให้จับตามอง สำหรับการเฝ้าระวังการล็อกผลบอล ต้องขอแบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1.ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คกก.วินัยมารยาท ได้กำชับผู้ตัดสินให้ช่วยจับตามอง เพราะอยู่ใกล้ชิดนักฟุตบอล ไทยลีก 1 ยังพอเบาใจ เพราะมี เทคโนโลยี VAR แทบจะเป็นคำตอบสุดท้ายชี้วัดได้ และอีกชั้นหนึ่งก็คือ กำชับผู้ประเมินผู้ตัดสินให้สอดส่อง
ส่วนที่ 2.แฟนบอล ตอนนี้ได้เข้าในสนาม 25 เปอร์เซ็นต์ และจะเข้าได้เพิ่มขึ้น พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า เชื่อว่าแฟนบอลมีแหล่งข่าววงใน มีพรายกระซิบ ได้ข่าวอะไร สงสัยอะไร ขอให้แจ้งมาที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เลย จะรับช่วงสืบสวนดำเนินการต่อไป ถือเป็นการช่วยขจัดวงจรล็อกผลบอล เป็นประโยชน์กับวงการ
ส่วนที่ 3.สโมสร แต่ละสโมสรทำทีมกีฬา ต้องหวังชัยชนะ การจะเล่นดึงช่วยเหลือเพื่อนนั้น ไม่ใช่กีฬา ยิ่งนี่คือกีฬาอาชีพ ไทยลีกพัฒนาไประดับต้นๆ เอเชียแล้ว สโมสรต้องช่วยกันเล่นเต็มที่ทุกนัด หรือบางทีแม้จะบอกว่าลงไปแล้วเต็มที่ แต่จัดตัวแบบแปลกๆ ประเภทขนตัวสำรองลงสนาม จัดตัวแบบเอานักเตะถนัดซ้ายไปเล่นขวา เอากองหน้าไปเล่นกองหลัง สมัยนี้หลอกกันไม่ได้แล้ว แฟนบอลติดตามอย่างใกล้ชิดก็ดูออก
ในตอนท้าย พล.ต.ท.อำนวย กล่าวต่อว่า นายกสมาคม(พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ก็เป็นนายตำรวจ ผมเองก็เป็น ประธานคกก.วินัย ก็เป็นนายตำรวจ ดังนั้นการสืบสวนก็ดำเนินอย่างเข้มข้น นอกจากที่เข้าสู่กระบวนการชั้นศาลแล้ว 16 ราย ตอนนี้ยังมีที่ส่งเรื่องให้กองปราบปราม เป็นในส่วนผู้ตัดสินที่เชื่อมโยงกัน แบ่งเป็น 2 ชุด และก็ยังจะสืบหาข้อมูลเรื่อยๆ โดยการนำของนายตำรวจมือสอบสวนระดับพระกาฬ