“ชาญวิทย์” จี้กกท.มองยิมนาสติกไม่ควรหลุดกีฬาชาติ-เยาวชน

แบ่งปัน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย หลังจากที่ได้มุมานะสร้างผลงานในระดับนานาชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และ ชิงแชมป์เอเชีย จนทำให้มีนักกีฬาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

    ล่าสุด พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการ การกีฬาวุฒิสภา พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานที่ปรึกษาฯ และ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองประธานฯ ได้เชิญ น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมฯ ร่วมให้รายละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการบรรจุกีฬายิมนาสติกเป็นกีฬาบังคับในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ,กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และมีการเรียน การสอน ในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ในการนี้ได้เชิญผู้บริหารของ 4 หน่วยงานใหญ่ ทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมพลศึกษา , มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ และ สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ละหน่วยงานร่วมเสนอแนะและให้ข้อมูลในเชิงลึก ว่า แต่ละหน่วยงาน มีอะไร ทำอะไร และ จะเอื้ออำนวยความสะดวกอย่างไรให้กับกีฬายิมนาสติก โอยให้ตั้งคณะทำงานสานต่อจนถึงเป้าหมายที่สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยต้องการ    น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ เปิดเผยว่า เป็นความคิดริเริ่มที่ดีของ คณะกรรมาธิการ การกีฬาวุฒิสภา ที่มีนโยบายผลักดันกีฬายิมนาสติกให้มีการเรียน การสอนใน โรงเรียนกีฬาทั่วประเทศทั้ง 11 แห่ง รวมถึงเปิดเป็นหลักสูตรภาคบังคับในกระทรวงศึกษาธิการ และ มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ อีกทั้งได้ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดให้มีแข่งขันในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และ กีฬาแห่งชาติ อย่างถาวร เช่นเดียวกับกีฬาสากลอีกหลายชนิด ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนานักกีฬาสู่ทีมชาติ และ สร้างชื่อเสียงให้กับทีมชาติอีกด้วย

    ขณะเดียวกัน ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน (อ.หรั่ง) รองประธานคณะกรรมาธิการ การกีฬาวุฒิสภา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น หากมองภาพรวมปัจจุบันกีฬาสากลต้องมีไม่ต่ำกว่า 22 ชนิดกีฬา ดังนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องหันมามองกีฬา ยิมนาสติก ให้มากขึ้น ด้วยการกำหนดให้มีการแข่งขันในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กับ กีฬาแห่งชาติ ในทุกๆ ครั้ง เช่นเดียวกับกีฬาว่ายน้ำ และ กรีฑา ส่วนตัวบอกได้เลย เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็น ที่กีฬายิมนาสติก จะถูกบรรจุให้อยู่ในหลักสูตรการเรียน การสอน ของกระทรวงศึกษาธิการ , สพฐ. และ โรงเรียนกีฬาทั้ง 11 แห่ง รวมทั้ง มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ เพราะกีฬายิมนาสติก เป็นกีฬาพื้นฐานที่ดี ในการต่อยอดสู่กีฬาชนิดอื่น ทั้ง เทควนโด (พุ่มเซ่), กระโดดน้ำ, ลีลาศ หรือแม้แต่กีฬาต่อสู้ ที่ต้องอาศัยความคล่องตัว โดยกีฬายิมนาสติก สามารถตอบโจทก์ได้อย่างดี แต่ทั้งนี้ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการทำหลักสูตรขั้นพื้นฐานในแต่ละระดับ และ สื่อเทคโนโลยี่ มานำเสนอให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย 

    ขณะเดียวกัน ในส่วนของการเตรียมทีมชาติชุดซีเกมส์ น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า ทางสมาคมถือฤกษ์ดี วันที่ 6 มีนาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 53 ปีของสมาคมฯ เรียกนักกีฬายิมนาสติกศิลป์, ยิมนาสติกลีลา และ ยิมแอโรบิค ทีมชาติไทยเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์ฝึกแห่งชาติ ในซอยเพชรเกษม 81 ทั้งนี้เพื่อเป็นการซ้อมเต็มระบบจำนวน 9 เดือนเต็ม เพื่อเป้าหมายอย่างน้อย 2 เหรียญทอง ตามที่คาดหวัง

ขอบคุณข้อมูลจาก สยามกีฬา