พิษณุโลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดเครือข่ายนายสาโรจน์ สีคมขำ

แบ่งปัน

วันที่ 28 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พลตำรวจตรีพยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พันตำรวจเอกภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวการผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติด เครือข่ายนายสาโรจน์ สีคมขำ

นายสาโรจน์ สีคมขำ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นหัวหน้าเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งขณะนี้หลบหนีหมายจับอยู่ฝั่งประเทศพม่า มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในเขตพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก อยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามพฤติกรรมตลอดมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายธวัชชัย หรือเอ็ม ขาวเอี่ยม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 2 ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นบุคคลพ้นโทษในเครือข่ายคดียาเสพติด และเป็นลูกน้องของนายสาโรจน์ มีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ได้ไปเช่าบ้านพักอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจและเป็นผู้สั่งการและกระจายยาเสพติดให้แก่ผู้ค้ารายย่อยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำยาเสพติดไปจำหน่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 174/2564 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2564 จนสามารถจับกุม นายธวัชชัย ในฐานความผิดมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 4.7 กรัม ยาบ้าทั้งหมดจำนวน 7,065 เม็ด เครื่องกระสุนปืนจำนวน 62 นัด

จากการสืบสวนขยายผลการจับกุมนายธวัชชัย ทราบว่านายนิติพงษ์ ดีอ่ำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 4 ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และนายศราวุธ มีอุดร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จะเป็นผู้เก็บยาบ้าและเด็กวางยาบ้าตามคำสั่งการของผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามพฤติกรรมตลอดมาจนสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 100,859 เม็ด พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป