เนื่องจาก 1 – 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีฝนตกชุกกระจายทั่วทั้งจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งอำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทยซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำฝนของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ทำให้เกิดปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละประมาณ 31 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (362 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)
แต่มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนประมาณวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ) เพื่อหน่วงน้ำให้ลำน้ำน่านสาขาของแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำน่าน มีระดับน้ำลดลง โดยเฉพาะบริเวณอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตรซึ่งใกล้เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว
อนี่งเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน (มีปริมาตรเก็บกักน้ำปกติ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร) ปัจจุบัน ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565 มีปริมาณน้ำในเขื่อน 745 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้อีกเพียง 194 ล้านลูกบาศก์เมตร (มีปริมาตรน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร จะใช้เวลาประมาณ 14 วัน จะทำให้เต็มความจุของเขื่อน 100%) หากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่รับน้ำฝนของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน
ดังนั้นสำนักงานชลประทานที่ 3 จึงจำเป็นต้องดำเนินการปรับแผนการระบายน้ำ ทยอยเพิ่มขึ้นเป็นวันละประมาณ 20-30 ล้านลูกบาศก์เมตร (220-350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอาจผลกระทบกับราษฎรที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิรามและอำเภอเมืองพิษณุโลก จากการที่น้ำอาจล้นตลิ่งเป็นบางแห่งได้
จึงประชาสัมพันธ์ถึงชาวบ้านที่มีกิจกรรมใช้น้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำแควน้อย รับทราบและระมัดระวังถึงสถานการณ์น้ำดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบให้น้อยลงต่อไป