ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เร่งตรวจสอบบานประตูเขื่อนนเรศวร ที่ชำรุดพัง 1 บาน ทำให้มวลน้ำหลากลงแม่น้ำน่านเพิ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเตรียมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ จาก อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ อีก 1,017 คิว

แบ่งปัน

ในช่วงเช้าวันนี้มีการปรากฏข่าวในโซเชียลมีเดียว่าบานประตูระบายน้ำ สลิงขาดทำให้บานประตูหล่นลงไปประกอบกับในช่วงเช้าวันนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้ประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ วันนี้จึงลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับกรมชลประทานที่ 3 ผู้อำนวยการเขื่อนนเรศวร ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนรับมือ

ไม่มีคำอธิบาย

แต่ผลสรุปจากการประชุม คือเขื่อนนเรศวรมีบานประตูนำหรับระบายน้ำทั้งหมด 5 บาน ซึ่งมวลน้ำสูงสุดของเรามาที่ 900 คิวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรารอรับ 1017 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( คิว) ที่จะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะมาถึงเราในช่วงเย็นหรือค่ำๆ ของวันนี้ เพราะฉะนั้นในส่วนของบานประตูน้ำที่ยังใช้การได้อีก 4 บาน เรายังสามารถที่จะคอนโทรลน้ำได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อด้านท้ายเขื่อนหรือตัวเมืองพิษณุโลก และได้ทำการประสานกับทางเทศบาลนครพิษณุโลกว่าบานประตู 4 บานของเขื่อนนเรศวรยังสามารถคอนโทรลน้ำคำนวณกับบานประตูที่ชำรุด อัตราการปล่อยลงไปยังไงก็ไม่ให้เกิน 1000 คิวที่จะระบายน้ำลงไปแน่นอน ขณะที่ในการซ่อมแซมบานประตูที่ชำรุด ใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วัน ก็แล้วเสร็จ

ส่วนเรื่องของรอยร้าวต่างๆ ของเขื่อนจากการตรวจสอบยืนยันว่าไม่กระทบต่อตัวโครงสร้างของเขื่อนฯแน่นอน เป็นแค่ปูนที่กะเทาะภายนอกของตัวเขื่อน ถ้าสถานการณ์น้ำเข้าสู่สภาวะปกติก็จะดำเนินการซ่อมแซมให้ปกติตามเดิม ส่วนเรื่องปริมาณน้ำที่ตัวเมืองพิษณุโลกขณะนี้สูงถึง 9 เมตรนั้น ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล ทุกฝ่ายจะชะลอน้ำคอนโทรลน้ำไม่ให้กระทบต่อตัวเมืองพิษณุโลกแน่นอน เราจะพยายามยามไม่ให้เกิน 9 เมตร (จุดวิกฤติ 10.37 เมตร) แต่หากเกินควบคุมจริงๆ เราจะทำการบล็อคน้ำที่ 2 ลำน้ำ คือ ลำน้ำยม กับลำน้ำแควน้อย เพราะฉะนั้นเราจะสกัดน้ำไว้ได้อีกส่วนหนึ่งให้จราจรน้ำที่ผ่านลำน้ำน่านอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่าทางเขื่อนนเรศวรยังสามารถคอนโทรลน้ำได้ โดยเฉพาะมวลน้ำที่กำลังเดินทางเข้ามาอีกได้อย่างแน่นอน