พบท่อน้ำทิ้งโผล่สลอนริมฝั่งน่าน แทนอัตลักษณ์เรือนแพพิษณุโลกในอดีต

แบ่งปัน


พิษณุโลก – ส่องสำรวจท่อน้ำทิ้งกลางเมืองสองแคว พบโผล่สลอนอยู่สองฝั่งน่าน แถมโรงแรมเก่าบางแห่งต่อท่อปล่อยน้ำตรงลงน้ำน่านแบบไร้บ่อบำบัดยาวนานหลายสิบปี ท่ามกลางเสียงลือกันสะพัดว่าไม่เคยจ้างรถดูดสิ่งปฏิกูลด้วยซ้ำ


ขณะที่จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินนโยบายย้ายเรือนแพที่เคยเรียงรายอยู่ในน้ำน่านทั้ง 2 ฝั่ง บริเวณสะพานนเรศวร หน้าวัดใหญ่ ศาลจังหวัดพิษณุโลก ขึ้นบกมาอยู่บ้านคลองโคกช้าง หมู่ที่ 10 ต.อรัญญิก อ.เมือง พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2541 นัยว่าเพื่อแก้ปัญหาสุขอนามัยน้ำน่าน เพราะชาวแพถ่ายอุจจาระและสิ่งปฏิกูลอื่นๆลงแม่น้ำ จนทำให้หนึ่งในอัตลักษณ์ของพิษณุโลก-เมืองสองแคว เลือนหายไป 


แต่กลับพบว่า ริมฝั่งน้ำน่านกลางเมืองพิษณุโลกปรากฎท่อน้ำทิ้ง ที่ปล่อยน้ำเสียไหลลงสู่แม่น้ำน่านทั้ง 2 ฝั่ง เริ่มจากทิศตะวันออก ประกอบด้วย 1.ท่อน้ำเสียบริเวณสามแยกประตูมอญ 2.ใต้สะพานนเรศวร 3.สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ หน้า สสจ.พิษณุโลก 4.เชิงสะพานเอกาทศรถ 5.วัดท่ามะปราง ส่วนฝั่งทิศตะวันตก 1.ใกล้แฟลตตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก 2.ใกล้วัดจันทร์ตะวันตก เป็นอย่างน้อย


นอกจากนี้ยังมีโรงแรมขนาด 4-5 ดาวเกิดขึ้นและนิยมสร้างริมแม่น้ำน่าน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าทั้งโรงแรม โรงพยาบาลเอกชน มีบ่อบำบัดถูกสุขลักษณะหรือไม่ และจะมีหน่วยงานราชการใดเข้าไปควบคุมดูแล เพราะต้องทิ้งน้ำเสียลงท่อน้ำทิ้งของเทศบาลนครพิษณุโลก จากนั้นก็ปล่อยไหลลงสู่แม่น้ำน่าน ซึ่งว่ากันว่าโรงแรมเก่าแห่งหนึ่งย่านกลางเมือง ไม่มีบ่อบำบัดของเสีย และไม่เคยจ้างรถดูดสิ่งปฏิกูลด้วยซ้ำ


นายรัตนชัย ฤทธิ์ทอง อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 100 /42 ต.แพพุทธบูชา ชาวเรือนแพในลำน้ำน่าน แต่ก็ถูกทางเทศบาลนครพิษณุโลกย้ายไว้ด้านท้ายน้ำเลยวัดท่ามะปราง ก่อนถึงสะพานสุพรรณกัลยา บอกว่า ที่ไม่ยอมย้ายไปบนบก เพราะครอบครัวทำมาหากินอยู่กับน้ำกับปลามาตลอดชีวิต ถ้าขึ้นบกก็ไม่รู้ไปทำอะไรกิน ไม่มีที่ดินปลูกบ้าน กรณีรัฐจัดหาที่อยู่ให้สมัยก่อน ก็ไม่มีเงินมาผ่อนรายเดือน จึงตัดสินใจอาศัยอยู่แพนี้ต่อไป แม้จะต้องอยู่ใกล้กับท่อน้ำทิ้งเทศบาล ก็ต้องทนกลิ่นเหม็นเอา