วันสิทธิผู้บริโภคสากล

แบ่งปัน

          วันสิทธิผู้บริโภคสากล หรือ World Consumer Rights Day ตรงกับวันที่ 15 มีนาคม ของทุกปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคตระหนักถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเคารพและปกป้องสิทธิของผู้บริโภคทุกคนอย่างทั่วถึงทั้งโลก


วันสิทธิผู้บริโภคสากลเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 โดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ. เคนเนดี เป็นผู้บัญญัติวันสำคัญสากลนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อว่า Consumer Right Day โดยได้รับการรับรองจากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคสากล (Consumers International)

          ทว่าเริ่มจัดกิจกรรมและรณรงค์ให้ประชาชนรู้จักวันนี้จริง ๆ ก็เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1983 โดยจัดแคมเปญให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม และเผยแพร่ความสำคัญของวันสิทธิผู้บริโภคสากลตามสื่อต่าง ๆ เท่าที่จะทำได้ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วันที่ 15 มีนาคม ของทุกปี ก็เป็นวันที่ผู้บริโภคทั่วโลกจะได้ตื่นตัวและตระหนักรู้ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเองเรื่อยมา


สิทธิผู้บริโภคไทย เป็นอย่างไรบ้าง

          สำหรับประเทศไทยก็ได้ให้ความสำคัญต่อสิทธิผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่า ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ก็ได้บัญญัติถึงสิทธิของผู้บริโภคไว้ในมาตรา 57 ว่า “สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภค ย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ” และในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ก็ได้บัญญัติสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไว้ 5 ประการ ดังนี้

          1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้อง และเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริง และปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้อง และเพียงพอที่จะไม่หลงผิดในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม

          2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม

          3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว

          4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ

          5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคตามข้อ 1, 2, 3 และ 4 ดังกล่าว

กิจกรรมวันสิทธิผู้บริโภคในไทย

          วันที่ 15 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสิทธิผู้บริโภค ในบ้านเราก็จะมีประเด็นเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภคแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าขอบเขตการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศไทยมีการพัฒนาและขยายบทบาทไปอย่างกว้างขวาง โดยมีทั้งการทำงานเชิงนโยบาย เช่น ร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค การจัดยุทธศาสตร์การเข้าถึงยาถ้วนหน้าของประชากรไทย การจัดการความรู้ในเชิงประเด็น เช่น การจัดการปัญหาน้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพ และการจัดการอันตรายจากแร่ใยหิน เป็นต้น

          นอกจากนี้ยังมีการขยายเครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภคไปยังสถานศึกษา ตลอดจนเครือข่ายผู้บริโภคในทุกหย่อมหญ้า ทั้งในรูปแบบการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ การจัดสัมมนา งานประชาสัมพันธ์ และสื่อให้ความรู้ในรูปแบบอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน

         ในฐานะผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ได้รู้สิทธิของตัวเองเอาไว้ก็ดีนะคะ จะได้ไม่พลาดท่าเสียทีพ่อค้า แม่ค้ารายไหนให้เจ็บใจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิผู้บริโภค องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค