เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลของพายุ ซินลากู ทางเขื่อนนเรศวรและเขื่อนแควน้อย ได้มีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนต่อเนื่อง เพื่อที่จะรองรับน้ำเหนือก้อนใหม่ที่จะลงมาถึงในไม่กี่วัน โดยมวลน้ำที่ปล่อยไหลลงท้ายทางเขื่อนนเรศวรและเขื่อนแควน้อยจะไหลผ่านอำเภอพรหมพิราม อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอเมือง อำเภอบางกระทุ่ม ของจังหวัดพิษณุโลก และไหลต่อไปยังจังหวัดพิจิตร
ทั้งนี้ กระแสแม่น้ำน่านที่ไหลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังเริ่มได้รับความเดือดร้อน ทำให้ปลาทับทิมในกระชังปรับตัวกับสภาพน้ำไม่ทัน เริ่มตายขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะออกซิเจนในน้ำมีน้อย จะทำให้ปลาปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการน็อก และลอยตายเกลื่อน
ด้านนางชุติมา ทองเถื่อน ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลาทับทิมกระชัง บ้านท่าตะเคียน ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองมีแพปลาทับทิมจำนวนกว่า 30 กระชัง ส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่เตรียมออกจำหน่าย หลังจากทางเขื่อนป่าสักฯได้ระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กระแสน้ำไหลแรง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจะต้องคอยเฝ้าระวังดูปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน หากระดับน้ำขึ้นมากก็ต้องลงมาดูกระชังปลา โดยระดับน้ำที่ขึ้นมาในวันนี้ อยู่ประมาณ 3 – 4 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะขึ้นอีก 1 – 2 เมตร
นางชุติมา ยังบอกอีกว่า มวลน้ำที่มีสีแดงขุน คาดว่าจะไหลผ่านอำเภอเมืองอีก 1 – 2 วันนี้ เนื่องจากตอนนี้มวลน้ำได้ไหลผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์มาแล้ว และจะคอยสังเกตระดับน้ำอยู่ตลอด เพื่อที่จะไม่ให้กระทบกับกระชังปลาของตนมาก
