เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 ส.ค.63) ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ตรวจความพร้อมการเตรียมรับน้ำจากจังหวัดสุโขทัยที่จะผ่านมายังแม่น้ำยมสายเก่า ผ่านคลองเมมจนถึงคลองบางแก้ว ที่ขณะนี้หัวน้ำไหลสู่พื้นที่อำเภอบางระกำแล้ว โดยกรมชลประทานได้ใช้ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ในการบริหารจัดการและหน่วงน้ำไว้ ควบคุมการไหลสู่แม่น้ำยมสายหลักและสายเก่า
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าน้ำ ทางกรมชลประทาน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำมาตั้งแต่จังหวัดแพร่ สุโขทัย อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมาถึงบางระกำมวลน้ำก้อนนี้มาจากแม่น้ำยม สาเหตุมาจากช่วงนั้นมีฝนตกภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งแต่ 20-22 มีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.แพร่ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมากลายเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่ลงมาที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตรงนี้มีจุดวัดน้ำที่ Y.14 ปกติจะเป็นตัวทีคอยบ่งชี้เป็นตัวบริหารจัดการน้ำของตัวแม่น้ำยมก่อนที่จะเข้าตัวสุโขทัย สำหรับ Y.14 ปีนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 2560-2562 เราได้ติดตามสถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำตรงนี้ถึง 1499 ลบ.ม./วินาที มากกว่าปี 60 เกือบ 400 ล้าน.ลบ.ม.
ทางกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการต้องใช้ประตูหาดสะพานจันทร์เป็นด่านหน้า ในการแบ่งปันน้ำ ไว้คอยหน่วง คอยฉุด อย่าให้น้ำเข้าเมือง โดยการแบ่งน้ำเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายมือของแม่น้ำยมจะไปทางคลองหกบาท หรือประตูหกบาท ไปสัก 350 ล้าน.ลบ.ม.จากคลองหกบาทจะผันไปคลองยม-น่าน ก็มีการจัดการจราจรทางน้ำ โดยการลดการระบายน้ำที่เขื่อนสิริกิติ์ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ลดการระบายจนถึงปิด ตรงนี้น้ำจะไหลไปที่แม่น้ำน่านประมาณ 100 ล้าน.ลบ.ม./วินาที จาก 350 หายไป 100 จะมีเส้นตรงลงที่คลองยมน่าน(สายเก่า) หรือจุดประตูบางแก้ว 240-250 ล้าน.ลบ.ม./วินาที แล้วจะแยกไปคลองย่อยลงแม่น้ำน่านอีก ปัจจุบันเราวัดตรงนี้ประมาณ 109 ล้าน.ลบ.ม./วินาที ก็แสดงว่าลงอีกสาขาหนึ่งไปแม่น้ำน่าน ส่วนทางฝั่งขวาของทางแม่น้ำยมที่ประตูหาดสะพานจันทร์ก็จะไปที่ประตูน้ำโจนประมาณสัก 10-30 ล้าน.ลบ.ม./วินาที จะไปที่แก้มลิงทะเลหลวง ขณะที่มวลน้ำจากจังหวัดสุโขทัย เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลก มีปริมาณ กว่า 500 ล้าน ลบ.ม. และแยกไปตามคูคลองน้ำต่างกว่า 150 ล้าน ลบ.ม.
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่าเราจะปล่อยให้ผ่านประตูหาดสะพานจันทร์ก่อนที่จะถึงเมืองไป 800 ล้าน.ลบ.ม./วินาที แล้วผันออกคลองซ้าย ขวา คลองเล็กคลองน้อย ออกไปประมาณ 170 ล้าน.ลบ.ม./วินาที จะบังคับไม่ให้เกิน 550 ล้าน.ลบ.ม./วินาที ที่ Y.4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่ 23 ส.ค. ที่ได้ลงพื้นที่ดูการบริหารจัดการน้ำ ได้มีการจัดตั้งชุดมวลชนสัมพันธ์ ประกอบด้วยหน่วยปกครองท้องที่ ทหาร ตำรวจ ชลประทาน เพื่อลงพื้นที่สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนบริเวณ 2 ฝากฝั่งแม่น้ำยมทั้งสายใหม่และสายเก่า เพื่ออธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจและดูแลประตูระบายน้ำต่างๆ โดย ได้รับความความร่วมมือจากประชาชนอย่างดีในทุกทีช่วยกันนำน้ำจากที่ Y.14 ลงมาถึงบางระกำ เราจะลำเลียงผ่านมาคลองยม-น่าน แม่น้ำยม คลองต่างๆ มาเจอกันที่ N.67 คือจุดวัดน้ำที่แม่น้ำยมมาบรรจบกับแม่น้ำน่านที่วัดเกยชัยเหนือ ตรงนี้น้ำเริ่มขึ้นแต่ยังคงต่ำกว่าตลิ่งมาก ตรงนี้จะลำเลียงมวลน้ำไม่เกิน 2-3 วัน มวลน้ำจะไปอยู่หน้าเขื่อนเจ้าพระยา เราจะอัดน้ำไว้ไม่ทิ้งลงทะเลเพื่อออกไป 2 ฟากฝั่ง ฝั่งซ้ายคือคลองชัยนาทป่าสัก ลงคลองรพีพัฒน์ แยกใต้ แยกตก ไปที่คลอง 13 จนถึงพระองค์ชลทิศออกไปฉะเชิงเทรา เพื่อให้น้ำพี่น้องประชาชนได้ทำนา ในทุ่งเจ้าพระยาตอนนี้ยังไม่ได้ทำนา 3.54 ล้านไร่ เราจะเอาปริมาณน้ำ 400-500 ล้าน จะได้ไปช่วยในการทำนาปี ส่วนฝั่งขวามือจะแบ่งน้ำไปที่แม่น้ำน้อย ท่าจีน คลองมะขามเฒ่าอู่ทอง ลำเลียงไปตอนนี้น้ำเริ่มขึ้นแล้ว ติดตามที่เขื่อนเจ้าพระยา ตอนนี้ระดับน้ำ +14.4 ซึ่งสูงขึ้นกว่าเมื่อวานประมาณ 60-70 เซนติเมตร จึงเป็นการบริหารจัดการน้ำตอนนี้ คาดว่าน้ำจากจังหวัดสุโขทัย จะถึงลุ่มเจ้าพระยาภายใน 5-6 วันนี้