กองทัพภาคที่ 3 ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือชาวสุโขทัย

แบ่งปัน

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 โดย พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ สนธิกำลังจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 4 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลพัฒนาที่ 3 ได้จัดกำลังพล จำนวน 366 นาย รถจำนวน 52 คัน รถครัวสนามจำนวน 1 คัน และเรือจำนวน 15 ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชน ที่จังหวัดสุโขทัย

โดยการอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน มอบถุงยังชีพ และทำความสะอาดล้างดินโคลนที่เข้าไปในบ้านเรือนประชาชน พร้อมจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพให้กับประชาชน

ล่าสุดมวลน้ำจากจังหวัดสุโขทัย ได้ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณแม่น้ำยมสายเก่า ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยน้ำเอ่อล้นตลิ่ง เนื่องจากคาดการณ์มวลน้ำก้อนแรกที่ไหลเข้าสู่พิษณุโลก โดยเส้นทางแม่น้ำยมสายเก่า – คลองเมม – คลองบางแก้ว ในเขต อ.พรหมพิราม อ.เมือง อ.บางระกำ ได้มีการเร่งการระบายน้ำ ผ่าน ประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง ประตูระบายน้ำวังขี้เหล็ก และ ประตูระบายน้ำบางแก้ว ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก เบื้องต้นได้ผลักดันมวลน้ำก้อนน้ำลงสู่คลองน้ำธรรมชาติ ทั้ง 99 แห่ง ในพื้นที่โดยเฉพาะที่บริเวณคลองแยงมุม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม หากมีมวลน้ำเข้ามามากอีก ก็จะผันน้ำเข้าทุ่งบางระกำตามโครงการบางระกำโมเดล


จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก เตรียมความพร้อมรับน้ำจากจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะประชาชนและพื้นที่การเกษตร ที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำยมสายหลัก และริมตลิ่งแม่น้ำยมสายเก่า – คลองเมม – คลองบางแก้ว อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ เฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมการขนของขึ้นที่สูง หากเกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด