แม่ค้าร้านอาหารเจคาดการณ์ บรรยากาศการกินเจในปีนี้อาจจะไม่คึกคัก

แบ่งปัน

หลายคนอาจสงสัยว่า “กินเจ” ต่างกับ “กินมังสวิรัติ” อย่างไร เพราะอาหารมังสวิรัติก็เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกัน แต่มังสวิรัติสามารถทานผักได้ทุกชนิด แต่อาหารเจ ต้องเว้นผักฉุน 5 ประเภท คือ กระเทียม หัวหอม (รวมทั้งหอมแดง หอมขาว หัวหอมใหญ่ ต้นหอม) หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน ไม่ค่อยพบในประเทศไทย) กุยช่าย และใบยาสูบ รวมทั้งของเสพติดทุกชนิด และยังต้องประพฤติศีลร่วมด้วย จึงจะเป็นการถือศีลกินเจที่แท้จริง ขณะที่มังสวิรัติ หมายถึง การไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น

ก่อนถึงวันเทศกาลเจจริงประมาณ 1-2 วัน โดยส่วนมากจะนิยมล้างท้องก่อนกินเจจริง ๆ 1 วัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น เมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาด พร้อมถือศีลกินเจตามประเพณี แต่ในปีนี้ คุณวันเพ็ญ บัวแก้ว อายุ 60 ปี เจ้าของร้านอาหารเจ ที่เปิดมากว่า 20 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ปกติในช่วง 1-2 วันก่อนกินเจ ราคาวัตถุดิบในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นผักหรือโปรตีนเกษตรจะมีราคาสูงขึ้น ผักบางชนิดถึงกับขาดตลาดเลยก็มี แต่ในปีนี้ผักในตลาดยังไม่มีการปรับราคาสูงขึ้นจากเดิม และยังเล่าไปถึงบรรยากาศในการกินเจปีนี้ ว่าอาจจะเงียบเหงากว่าทุกปีเนื่องจากระยะเวลากินเจอยู่นอกช่วงเข้าพรรษาก็เป็นได้

ร้านอาหารเจของป้าวันเพ็ญ (ร้านน้ำฟ้า) ตั้อยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช และสืบเนื่องจากสาเหตุที่วัตุดิบไม่ได้ขึ้นราคา อาหารเจของป้าวันเพ็ญนั้น จึงจัดจำหน่ายในราคาเดิม คือ กับข้าวเริ่มต้นที่ถุงละ 20 บาท เท่านั้น มีทั้งแกงส้ม ต้มจับฉ่าย ผัดผัก ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น

          การกินเจนอกจากจะช่วยซ่อมแซมร่างกายของตัวเองแล้ว ยังหยุดการเบียดเบียนผู้อื่น เป็นการสร้างกุศลอิ่มใจแล้วก็อิ่มบุญอีกต่อ ใครที่ไม่เคยกินเจ จะเริ่มในปีนี้ก็ไม่สายเกินไปนะครับ