หนุ่มใหญ่ถูกรุ่นน้องเสียบด้วยมีดดับคาบ้านพักสยอง สงสัยคู่ขารู้เห็น!

แบ่งปัน

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 2 มิ.ย. ร.ต.ท.พรรณทิวา ลำโนรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 218/4 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ซอย 5 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร มั่นเมือง รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ รอง ผกก.(สอบสวน) ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช พ.ต.ท.หญิง เรณุกา หมอนแพร นวท.สบ.3 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านต่างมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง มีรั้วรอบขอบชิด และกั้นห้องด้วยอิฐบล็อกเป็นห้องนอน 1 ห้อง มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนที่พื้นปูนใต้ถุนบ้านจำนวนมาก และพบร่องรอยการต่อสู้กันจนข้าวของเสียหายกระจัดกระจาย ภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนหงายจมกองเลือดอยู่อย่างสยดสยอง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายวีระชัย เหมือนเสมอ อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีเขียว ใส่กางเกงขาสั้น มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ชายโครงและลิ้นปี่จนเสียชีวิต คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม. นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดอีโต้เปื้อนเลือด จำนวน 1 เล่ม สากกะเบือเปื้อนเลือด จำนวน 1 อัน และ อิฐบล็อกเปื้อนเลือดตกอยู่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายอานนท์ แดงซิว อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย ให้การว่า ตนเองและนายวีระชัย รู้จักกันมาประมาณ 20 ปี ซึ่งนายวีระชัยมีนิสัยรักเพศเดียวกัน และคบกับตนคอยดูแลอย่างสนิทสนมอยู่บ้านหลังเกิดเหตุด้วยกัน แต่มักมีนิสัยโมโหร้ายชอบทำร้ายร่างกายทุบตีตนเองอยู่เป็นประจำ กระทั่งเมื่อคืนนี้ต้องหลบไปนอนที่อื่นนอกบ้าน จนเรื่องรู้ไปถึงน้องชายของตนทำให้โกรธแค้นแทนที่พี่ต้องโดนทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง จึงบุกเข้ามาหานายวีระชัยกลางดึกที่บ้านหลังเกิดเหตุ และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง มีการต่อสู้กันถึงขึ้นใช้อาวุธมีดฟันกันจนเลือดสาดกระเซ็นเต็มบ้านอย่างสยดสยอง จนช่วงเช้ามีญาติโทรมาแจ้งว่านายวีระชัยเสียชีวิตแล้ว ก็รู้สึกตกใจมากรีบเดินทางมาดูทันที ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายและเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้เพียงไม่กี่คน พร้อมตั้งประเด็นปมการสังหารมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทหึงหวง ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ และยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของใครคนใดคนหนึ่ง แต่จากหลักฐานในที่เกิดเหตุและอาวุธของกลางที่พบนั้น ตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 จะนำไปตรวจรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน