ทักษิณ ประกาศลั่น ‘กลับไทยแน่’ ชี้ มหาวิกฤตรอบนี้ ยิ่งกว่า ‘ยุคต้มยำกุ้ง’

แบ่งปัน

วานนี้ (29 มิ.ย.) Tony Woodsome หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมสนทนาในรายการ CARE ClubHouse x CARE Talk ตอน “โทนี่สอนน้อง” พังพินาศกันไปใหญ่ เจ็บได้แต่ไม่จบ ล็อกดาวน์ไปทำไม ถ้าไม่ตรวจเชิงรุก โดยข่าวสด ร่วมถ่ายทอดสด

ช่วงตอนหนึ่ง ผู้ร่วมเสวนา ได้สอบถามถึงการที่ผู้นำเปลี่ยนคำสั่งไปมา ทำอย่างไรให้เข้าใจคนธรรมดา โดยโทนี่ ตอบว่า การเป็นผู้นำ ต้องรู้จริง และวางแผนชัดเจน ไม่ใช่นึกอะไรได้ก็สั่ง ทุกประเทศ ไม่ใช่อะไรสั่ง เกี่ยวกับองคพยพ จำนวนมาก ผู้นำสั่ง เคลื่อนแล้วมันเบรกไม่ทัน ต้องรู้จริง ไม่ใช่สื่อสารหลายคน ถ้าผู้นำไม่เสนอเอง ให้โฆษกรัฐบาล พูดก็ได้ แต่ต้องชัดเจนทุกอย่าง

“ธรรมชาติมนุษย์ เวลาไปเป็นผู้นำในองค์กรไหน สิ่งที่ติดตัวมา นิสัยใจคอ ก็ติดมาใช้ตรงนั้น ตอนที่ทรัมป์ชนะ มีคนถามว่า ทรัมป์จะเป็นอย่างไร ผมก็บอก ทรัมป์เป็นนักธุรกิจ จะไม่มี protocol เลย อะไรที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมรีเวิร์สเลย และการเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ คนสำเร็จต้องเป็นคนบ้า เลยบอกว่า เตรียมรับนโยบาย crazy policy ได้เลย นี่คือสิ่งที่ติดตัวมา

ผู้นำเรา เป็นทหารมาทั้งชีวิต เขาจะเป็นแบบราชการ ใช้งบประมาณ หาไม่เป็น จะไม่เข้าใจคนทำมาหากิน สิ้นเดือนก็มีเงินเดือนใช้ อยู่ที่ว่า เขาจะฟังนักธุรกิจบ้างไหม ถ้าเขาคิดว่า นักธุรกิจจะมาเอาผลประโยชน์ ก็แคบ ก็สั่งอย่างเดียว เลยเป็นแบบนี้ เป็นธรรมชาติ” ส่วนจะให้เขาเข้าใจเรา ว่าคนธรรมดาได้อย่างไร โทนี ระบุว่า “ต้องให้คุณเจริญสอน เพราะเขาสนิทกับคุณเจริญ”

“กลับไทยเมื่อไหร่?”

ทั้งนี้ น.สพ. บูรณ์ อารยพล หรือหมอบูรณ์ ตัวแทนกลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน ได้เข้ามาร่วมสอบถาม ถึงประเด็นเงินประกันสังคมที่มีถึง 2 ล้านล้านบาท หลายประเทศในโลกเขาคืนมาหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ทางกลุ่มพยายามไปหานายก เท่าไหร่ก็ไม่ยอมคุยกับเรา อยากถามความเห็นว่า เงินประกันสังคมเอามาคืนหรือให้พวกเราเข้าถึงได้หรือไม่ โดยยังถามอีกว่า “พี่โทนี่” จะกลับมาเมื่อไหร่ ทุกคนคิดถึงมาก

โดยโทนี่ กล่าวตอบว่า กลับแน่ แต่เมื่อไหร่ค่อยบอก ส่วนสำหรับเรื่องประกันสังคม วันนี้หนักใจ ทุกอย่างข้อมูลไม่รวมกันสร้าง Big Data ที่เขาถึงง่าย ต่อไปเราลำบาก ถ้า data ไม่มีก็ machine learning, deep learning ไม่ได้ ทุกวันนี้ระบบราชการเราที่หวงข้อมูลมันอันตราย ประกันสังคม ควรเข้าถึงข้อมูลได้ ถ้าช่วงนี้ผถือสิทธิเขาลำบาก น่าจะเป็นสิทธิของเขาที่เอากลับบางส่วนได้บ้าง ให้เขาผ่อนคลายความเดือดร้อน การปกครองแบบมี flexibility (ความยืดหยุ่น) โดยมีข้อมูลชัดเจน ให้เขาเลือกเองจริงๆ ทุกวันนี้ราชการเป็นหนี้กองทุนประกันสังคม ทุกอย่างต้องโปร่งใสกว่านี้ ถ้าไม่โปร่งใส ต่อไปคนไทยจะลำบากกว่านี้อย่างมาก

วิกฤตนี้ ยิ่งกว่าต้มยำกุ้ง

ในช่วงท้ายของการร่วมพูดคุยในคลับเฮาส์ครั้งนี้ โทนี่ ระบุว่า ครั้งนี้เป็นวิกฤตสำคัญของประเทศ ยิ่งกว่าต้มยำกุ้ง เป็นความเดือดร้อนที่ครบทุกรูปแบบ หากเอาข้อมูลจากทุกภาคส่วน มาระดมสมองแก้ปัญหา จะมีคัมภีร์การแก้ปัญหาได้ดีทีเดียว “ตอนนี้ สุดๆทุกอาชีพแล้ว มีแค่บางอาชีพที่ไปได้ เช่น นักลงทุน เล่นหุ้นเก่งๆ หรือการค้ากับรัฐบาล นอกนั้นเหนื่อยหมด ขนาด consumer product ก็หนัก เพราะกำลังซื้อมันไม่มี”

ทั้งนี้ ผู้ร่วมเสวนาได้ถามว่า คิดว่ารัฐบาลคงโควิดไว้ เพื่อป้องกันการชุมนุมหรือไม่ โทนี่ระบุว่า ไม่อยากจะคิดแบบนั้น ตอนนี้สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ต่ออายุยาวที่สุดในโลก คิดว่าคงไม่คงไว้ แต่เอาไม่อยู่มากกว่า ผลพลอยได้คือ สกัดม็อบ อาจจะสะดวกขึ้น แต่ม็อบเด็กนักเรียน ระดับหนึ่ง แต่ม็อบคนที่จะเจ๊ง ไม่มีจะกิน จะหนักกว่า

ส่วนความคิดที่ให้ลดเงินเดือนราชการ เยียวยาประชาชนนั้น โทนี่ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากของรัฐบาล ที่จะตัดสินใจอย่างนั้น ปัญหาคือ รัฐบาลต้องให้ข้าราชการได้สำนึกว่า เรากินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ถ้าวันนี้ประชาชนลำบาก ไม่มีเงินเสียภาษี ก็เก็บรายได้ได้น้อยลง ข้าราชการก็ขึ้นเงินเดือนไม่ได้ สมัยผม ราชการบริการประชาชน ถ้าประชาชนอยู่ดีมีสุข ข้าราชการก็จะมีเงินเดือนขึ้น มีโบนัส

และยังระบุถึงมาตรการรัฐที่กู้เงินมาแจกว่า แจกเงิน ถ้าเรามีเงินเหลือ อย่างสิงคโปร์ ปีหนึ่ง เขามีรายได้เยอะขึ้น ก็คืนเงินให้ประชาชน แต่กู้มาแล้ว แทนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกไปไม่กี่มื้อก็หมด แต่เศรษฐกิจพัง ก็ไม่คุ้ม การแจกเงิน ไม่ต้องใช้ความคิดเลย ถ้าใช้ความคิด ต้องแยบยลที่จะให้เศรษฐกิจมันฟื้น ให้หมุนหลายๆรอบ แจกเงินหาเสียง ง่ายมาก ก่อนจบ โทนี่ ยังเปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือชีวประวัติแล้ว โดยจะออกปลายปีนี้ เป็นหนังสือรูปแบบใหม่ ที่มีลิงก์ เว็บตูน โดยต้องรีบทำเพราะตอนนี้ยังจำเรื่องราวต่างๆได้อยู่

ที่มา khaosod