พิษณุโลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวกวาดล้างอาชญากรรม จับตาเฝ้าระวังการขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ผ่านเส้นทางรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจ ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

แบ่งปัน

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 น. ที่ตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวระดมกวาดล้างอาชญากรรม กลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และหมายจับคดีค้างเก่า ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน และ ผู้คนกำลังยืน

พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบาย ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ลดระยะ เวลาการกักตัวเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ รองรับนักท่องเที่ยวตลอดจนการผ่อนปรนการทำกิจกรรมการ ดำเนินชีวิตประจำวัน และธุรกิจ กิจการของพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสนองตอบนโยบายดังกล่าว เป็นการสร้างความปลอดภัย และเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว

อาจเป็นรูปภาพของ 10 คน, ผู้คนกำลังยืน และ ชุดเครื่องแบบทหาร

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล่างอาชญกรรรมขึ้นในระหว่างวันที่ 20-31 ต.ค.64 โดยมีเป้าหมายในการระดมกวาดล่างอาชญากรรมทั่วไป อาชญากรรมทางเทคโนโยยี และหมายจับคดีค้างเก่าโดยจับตามุ่งเน้นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่ที่หลบหลีกด่าน และใช้วิธีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่ อย่างล่าสุดวันที่ 22 ต.ค.64 บนถนนกำแพงเพชร-พิจิตร (หลักกิโลเมตรที่ 76 ) ม.6 ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร สามารถจับกุมรถตู้ขนแรงงานเถื่อน จำนวน 39 คน ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านเส้นทางรองเพื่อหลบเลี่ยงด่าน ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาล มุ่งเน้นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงในการเกิดการระบาดของ โควิด-19 ในประเทศไทย และควบคุม หรือติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยผลการกวาดล้างอาชญากรรม ตามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม รวม 4926 คดี ได้ผู้ต้องหา 5100 คน ตรวจยึดของกลางอาวุธปืน 344 กระบอก ยาบ้า 170454 เม็ด ยาไอซ์ 1704.9 กรัม กัญชาแห้ง 8555.2 กรัม และกัญชาสด 916 ต้น ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวม 338 คดี ผู้ต้องหา 282 คน และติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า 980 หมาย