พิษณุโลก “อนุทิน” เปิดประชุมรองรับเปิดประเทศ พร้อมเผยวัคซีนมีมาก ถึงจะช่วยประเทศที่ขาดแคลน

แบ่งปัน

“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศและรองรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ภาคเหนือ พร้อมเผยไทยเรามีวัคซีนเพียงพอแล้ว และที่จะเตรียมช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านที่ขาดแคลน ส่วนประเด็นที่บอกว่าไทยไม่ได้เข้า COVAX คงไม่ถูกนักเพราะว่าเราเข้า COVAX แต่เราเข้าในฐานะที่เป็นผู้ให้

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศ และรองรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ภาคเหนือ ร่วมกับผู้บริหารและคณะทำงานตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงระดับพื้นที่ในการทำงาน ในรูปแบบ Onsite จำนวน 200 คน และ Online จำนวน 200 คน เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมระดมความคิดเห็นข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนเรียนรู้นำไปพัฒนาแผนปฏิบัติการของแต่ละจังหวัดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่า ตามนโยบายเปิดประเทศของนากยกรัฐมนตรี เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้ ควบคู่กับการควบคุมการระบาด ตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างสมดุล ตั้งแต่จัดหาวัคซีนมาให้อย่างเพียงพอ ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ และเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อาศัยและทำงานในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนได้ 88 ล้านโดสแล้ว

ศบค. ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเปิดประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานตามมาตรการที่กำหนด ตามหลัก VUCA คือ Vaccine ความครอบคลุมวัคซีน Universal Prevention กระตุ้นเตือนให้ทุกคนตระหนักว่าทุกคนรอบตัวเป็นผู้ติดเชื้อและปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเองชั้นสูงสุด Covid Free Setting สถานประกอบการดำเนินการตามมาตรการ ATK สร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกลับมาใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรม/กิจการด้วยวิถีชีวิตใหม่ ภายใต้มาตรการควบคุมโรคฯ ด้วยความสมดุล

โดยเป้าหมายใหม่ของการฉีดวัคซีนภายในปี 2564 ให้ความครอบคลุมของผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อยร้อยละ 80 ภายในเดือนธันวาคม วัคซีนเข็มที่ 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนธันวาคม 2564 โดยเฉพาะพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดที่ต้องเร่งดำเนินการให้ครอบคลุม โดยความร่วมมือจากฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของสถานประกอบการ ภาคประชาสังคม ดำเนินการให้ผู้รับผิดชอบระดับอำเภอ ตำบลและหมู่บ้านสำรวจประชากรที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคชีน และจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ที่ประสงค์รับวัคซีนพร้อมกำกับ ติดตามกลุ่มเป้าหมาย ฝ่ายการแพทย์และสาธารณสุขกำหนดจุดฉีดให้เข้าถึงง่ายเร่งรัดการฉีดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ปัญหาโควิดในพื้นที่ชายแดน ที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ามาดูแลอย่างไร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้จัดการปัญหา และอาศัยความเข้มแข็งของทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในการดำเนินการ โดยแบ่งการจัดการเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของโรงงาน สถานประกอบการใช้ Bubble and Seal หากพบผู้ติดเชื้อและคัดแยกผู้ติดเชื้อตามประเภทความรุนแรง (สีแดง สีเหลือง สีเขียว) เข้ารับการรักษาใน CI กลุ่มสีเขียวเสี่ยงต่ำ ทำงานได้และทำ Small Bubble and Seal เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนปกติ และการฉีดวัคซีนให้กับทุกคน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว (เช่น แรงงานต่างด้าวแม่สอดฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 95%)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวต่ออีกว่า ยืนยันเราไม่ขาดวัคซีนเรามีวัคซีนมากเพียงพอที่สำรองเอาไว้ สำหรับเข็ม 3 และสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย และเรายังมีมิตรประเทศมากมายที่แสดงเจตต์จำนงค์ที่จะบริจาควัคซีนให้ไทย ทั้ง ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และมิตรประเทศอีกหลายประเทศ เรามีวัคซีนมากพอที่จะดูแลชีวิตทุกชีวิตในราชอาณาจักรไทย ในขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะพิจารณาบริจาควัคซีนให้กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีนอย่างเต็มที่ หรือประเทศที่ยังมีผลกระทบล่าช้าของวัคซีนที่สั่งซื้อจาก COVAX ซึ่งประเทศไทยเราก็จะเร่งพิจารณา ส่วนประเด็นที่บอกว่าไทยไม่ได้เข้า COVAX คงไม่ถูกนักเพราะว่าเราเข้า COVAX แต่เราเข้าในฐานะที่เป็นผู้ให้

ส่วนเรื่องการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะที่ผู้ประกอบการร้องขอให้เปิดเร็วขึ้นนั้น เราขอค่อยๆปรับสีไปทีละนิด ดูสถานการณ์เป็นโซน เป็นเวลา เป็นจังหวัด เพราะยังคงมีความน่ากลัวอยู่ในเรื่องของการติดเชื้อ เรื่องของการปรับสีพื้นที่นั้นเราเน้นจากปริมาณและอัตราส่วนของการได้รับวัคซีนของประชาชนในแต่ละจังหวัด จะเห็นได้ว่ามีบางจังหวัดที่เปิดมาตรการ ผ่อนคลายบ้างแล้วเราก็ค่อยๆขยับสี ปรับสีพื้นที่ไปทีละนิด

ยังคงยืนยันว่าที่อันตรายที่สุดในการติดเชื้อก็คือ การเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เพราะว่าจะมีในเรื่องของการใกล้ชิดกัน การร่วมกลุ่ม ร่วมกันใช้ภาชนะ อาหาร น้ำแข็งต่างๆ ยืนยันว่าทางกรมควบคุมโรคจะพยายามหามาตรการ ถ้าเราฉีดวัคซีนกันทั่วถึงแล้ว และใช้มาตรการ COVID-FREE SITTING มาตรการ D-M-H-T-T ควบคู่กันไปเราก็จะค่อยๆผ่อนคลายมาตรการได้อย่างเร็วที่สุด เราฉลองปีใหม่ดีกว่า ดีกว่าไม่ได้ฉลอง การที่เราได้กลับบ้าน ได้พบครอบครัว ญาติพี่น้อง เวลาอยู่ด้วยกันกินน้ำแข็งเปล่าก็อร่อยแล้ว