นพ.สสจ.พล แถลงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในเรือนจำ โดยกำลังดำเนินการสอบสวนโรคต่อไป

แบ่งปัน

แถลงข่าวเรื่องการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด

วันนี้ ( 13 ธ.ค. ) เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก แถลงข่าวเรื่องการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมสถานกาณ์การแพร่ระบาด

แนวทางการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดวิกฤติทางการแพทย์

1.รู้เร็ว – รีบตรวจ ATK ทุกรายและตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ทุกรายที่ผลเป็นลบ

2รักษาไว – ให้ยาต้านไวรัสให้ไว โดยให้ทุกรายที่ผล ATK เป็นบวก

3.ติดตามให้ปลอดภัยทุกกลุ่มสี – แบ่งกลุ่มให้ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มสีแดงต้องรีบนำออกมาเข้ารพ. วางแนวทางการประเมินอาการอย่างใกล้ชิดใน 10 วันแรก

สถานการณ์ที่เข้าตรวจคัดกรองวันที่ ๑๑ ธันวาคม 256๔ เวลา ๑๘.๓๐ น. พบผู้ต้องขังมีผลตรวจ ATK (Antigen Test Kit) เป็นบวก จำนวน ๒๘๓ ราย จากการตรวจเชิงรุก ๓๖๔ ราย (Attack rate เท่ากับ ๗๗.๗๕) เป็นผู้ต้องขังแดน 4 ทั้งหมด โดยได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวังทอง ๓ ราย เนื่องจากมีอาการปวดศีรษะรุนแรง และมีภาวะเครียด (ยอดผู้ต้องขังรวม ๒,๕๕๘ ราย)

จากการสอบสวนโรค พบว่า 2 วันก่อน มีผู้ต้องขังป่วยไปมาตรวจที่สถานพยาบาลในเรือนจำ ด้วยอาการไข้ หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ เป็นจำนวนมาก มารับบริการวันละประมาณ 100 – 150 คน ทีมดูแลผู้ป่วยในเรือนจำ ได้สุ่มตรวจ ATK มีผลเป็นบวก ๕ ราย จึงได้คัดกรองเชิงรุกในกลุ่มผู้ต้องขังทั้งหมด พบผลบวก รวมทั้งหมด ๒๘๓ ราย จากการตรวจ ๓๖๓ ราย

เรือนจำจังหวัด ตรวจ ATK

– 11/12/64 ตรวจ 562  คน ผล +ve 283 ราย (50.35%)

– 12/12/64 ตรวจ 1,628 คน ผล +ve 1,276 ราย (78.37%)

รวมตรวจทั้งหมด 2,190 คน ผล +ve 1,559 ราย (71.18%)

ให้ยาต้านไวรัส และวัดออกซิเจนปลายนิ้วขณะพักและลุกนั่งวันละ 2 รอบ เข้าสู่ขั้นตอนการจัดกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด 19 และ การติดตามดูแลรักษาตามแนวทาง โดย แบบคัดกรอง, x-ray และSpO2 ผู้ที่อยู่ในระดับ เขียว และเหลืองจะได้อยู่ในโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ ส่วนผู้ป่วยสีแดงจะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลวังทอง

แผนการดำเนินงาน

  • 13 ธ.ค.64 เก็บตัวอย่างกลุ่ม 608 ผู้ที่มีผลตรวจ ATK + ส่งตรวจยืนยัน ด้วยวิธี RTPCR จำนวน 160 คน
  • 14 ธ.ค.64 เก็บตัวอย่างกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 116 คน และผู้ที่มีผลตรวจ –ve 400 คน รวม 516 คน โดยรถพระราชทานฯ และ เอ็กซ์เรย์ปอด กลุ่ม 608

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต

  1. โรคประจำตัว
  2. การไม่ได้รับวัคซีน
  3. การรักษาช้า

ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม มีแต่ผู้ต้องขังใหม่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

การป้องกันการเสียชีวิต โดยให้อาสาสมัครเรือนจำมาดูแลผู้ต้องขังที่ป่วยและอ่อนแออย่างใกล้ชิด และจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์ทุกราย 50เม็ดต่อราย