การแถลงข่าว แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารจัดการในภาวะวิกฤติของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก โดย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก
วันนี้ ( 13 ธ.ค. ) เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายมงคล จันทะจร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก แถลงข่าวเรื่องแผนเผชิญเหตุและแผนบริหารจัดการในภาวะวิกฤติ ของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก
เป็นไปตามแนวทางของกระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมมือกับโรงพยาบาลแม่ข่ายเพื่อร่วมมือกันเข้าไปช่วยเรือนจำ เพื่อที่จะได้ตรวจ ATK ให้เสร็จภายใน 1 วัน เรือนจำได้มีการตรวจผู้ต้องขัง 2,190 คน มีผลเป็นบวก 1,599 คน โดยเรือนจำมีมาตรการการคัดแยกผู้ป่วย ดังนี้
การคัดแยกผู้ต้องขัง มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสีแดง คือกลุ่มที่มีผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวก และกลุ่มสีเขียวคือกลุ่มที่มีผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ โดยมีผู้ป่วย 1 รายที่ถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่ข่าย
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน มีการตรวจ ATK วันแรกของการเข้าทำงานทุกคนและทำการกักตัว 7 วันก่อนการเข้าไปทำงานด้านในของเรือนจำ โดยแบ่งเจ้าหน้าที่การทำงานออกเป็น 3 ชุด ผลัดเปลี่ยนการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
มารตราการการรับผู้ต้องขังใหม่ คือ วันแรกมีการตรวจ ATK และเข้าสู่ห้องกักโรคเป็นเวลา 7 วัน โดยวันที่ 7 จะมีการตรวจ RT-PCR ส่งโรงพยาบาลเพื่อเก็บเป็นข้อมูล
ภายในเรือนจำจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 500 เตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไว้เป็นสถานที่กักตัว โดยมีบุคคลากรของโรงพยาบาลวังทองและโรงพยาบาลข้างเคียงเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด
แนวทางในการเข้าเยี่ยมจากบุคคลภายนอก โดยปกติจะมีการให้ญาติเยี่ยมแบบออนไลน์ วันละ 36 ราย รายละ 15 นาทีแต่ช่วงนี้ทางเรือนจำจะงดกิจกรรมทั้งหมดทั้งการเยี่ยมแบบออนไลน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและสาธารณสุขทำงานได้สะดวกและรวดเร็วมากที่สุด
ในวันที่ 14 ธ.ค. 2564 จะมีการ เก็บตัวอย่างกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยรถพระราชทานฯ และเอ็กเรย์ปอด
โดย รถพระราชทานฯ จะตรวจบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มผู้สูงอายุก่อน
สาเหตุของการติดคลัสเตอร์ในเรือนจำ อยู่ในระหว่างการสืบสวนและหาสาเหตุ อาจจะเกิดจากการขนส่งอาหาร sinvอาจจะเกิดจากการตรวจ ATK ไม่เจอเชื้อไวรัสcovid-19 แต่เชื้ออาจจะอยู่ในตัวโดยไม่แสดงอาการ จึงต้องรอการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
การติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก