โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จับมือโรงพยาบาลเครือข่ายกองทัพบกในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 โรงพยาบาลพุทธชินราช เปิดอบรมและฝึกทบทวนการปฏิบัติการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินโดยอากาศยาน กองทัพบก ให้กับชุดแพทย์ทหารเผชิญเหตุฉุกเฉิน
ตามที่ ผู้บัญชาการทหารบก เน้นย้ำในการนำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยได้อนุมัติแนวทางการใช้อากาศยานของ กองทัพบก ในการสนับสนุนภารกิจส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ ทั้งในยามปกติและในสนาม ด้วยการปรับปรุงและดัดแปลงอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปขนาดเบา ฮ.ท.145 จำนวน 4 เครื่อง ที่เดิมใช้สำหรับ การปฏิบัติทางธุรการทั่วไป มาพัฒนาขีดความสามารถให้เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาล โดยกองทัพบกได้ดำเนินการแบ่งมอบเฮลิคอปเตอร์พยาบาลให้แต่ละกองทัพภาค เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือประชาชนสำหรับการส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ
กองทัพภาคที่ 3 เห็นความสำคัญในความปลอดภัยของประชาชน และมุ่งเน้นการฝึกบุคลากรให้มีความชำนาญในการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินโดยอากาศยาน กองทัพบก จึงได้อนุมัติให้ โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในฐานะ โรงพยาบาลแม่ข่ายของกองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้นำจัดการอบรมและฝึกทบทวนการปฏิบัติการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินโดยอากาศยาน กองทัพบก (ฮ.ท.145) ให้กับชุดแพทย์ทหารเผชิญเหตุฉุกเฉิน M-MERT Military Medical Emergency Response เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 โดยจำลองสถานการณ์การฝึกร่วมกับ โรงพยาบาลของกองทัพบก ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 3 หน่วย ได้แก่ โรงพยาบาลค่ายวิชรปราการ โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก โรงพยาบาลค่ายพ่อขุนผาเมือง และ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
การฝึกประกอบด้วย การส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉิน 6 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน STEMI ผู้ป่วยบาดเจ็บจากการกระแทก Blunt trauma และผู้ป่วยอุบัติเหตุบาดเจ็บ กระดูกสันหลังหัก จาก โรงพยาบาลของกองทัพบก ขนาดเล็ก ด้วยเฮลิคอปเตอร์พยาบาล พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์รุ่นใหม่ที่ได้รับจากกรมแพทย์ทหารบก โดยนำเฮลิคอปเตอร์พยาบาลลงบนดาดฟ้าอาคารอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ เพื่อส่งผู้ป่วยเข้าห้องสวนหัวใจ และผู้ป่วยรายอื่นๆ นำส่ง โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเข้ารับการผ่าตัด
การจัดบรรยายการอบรมในหัวข้อ บทบาทของกรมแพทย์ทหารบก กับการพัฒนาศักยภาพ การส่งกลับทางอากาศ , หลักปฏิบัติการส่งกลับผู้ป่วยทางการแพทย์ และ ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ (Principle of Medical Air Evacuation and Medical emergency on board), คุณลักษณะ และขีดความสามารถ ฮท. 145, Route การบิน จุดจอดสนาม ฮ. และจุดเติมเชื้อเพลิง ของการลำเลียงผู้ป่วยภายในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 3- Route การลำเลียงผู้ป่วยไป โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (รพ.รร.6) และ สิ่งที่นักบินต้องการจากจากชุดส่งกลับทางอากาศ ณ ห้องประชุมชินราชา ชั้น 3 อาคารอำนวยการ โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
จากนั้น ผู้อบรมเดินทางไปพร้อมกันที่สนามบิน หน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้ารับการฝึกฝึกทบทวนการปฏิบัติการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินโดยอากาศยาน กองทัพบก (ฮ.ท.145) โดย ฝึกซ้อมแบบ Static การใช้ Aerolite AG Stretcher ขึ้นลงอากาศยาน , ฝึกประกอบ Aerolite AG Pack Rack กับ Stretcher และติดตั้งอุปกรณ์ชุดส่งกลับ เครื่อง Monitor and defibrillator , Ventilator , Infusion pump
ต่อจากนั้น ฝึกปฏิบัติการส่งกลับทางอากาศยานตาม สถานการณ์สมมุติ 3 เที่ยวบิน
- จำลองเหตุการณ์รับผู้ป่วยจากพื้นที่ห่างไกลส่ง โรงพยาบาลศูนย์ อากาศยานยกตัวจาก สนามบิน หน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ไปยัง โรงพยาบาลพุทธชินราช 1 เที่ยวบิน -จำลองเหตุการณ์ส่งผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลของกองทัพบก อากาศยานยกตัวจาก สนามบิน หน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ไปยัง สนาม ฮ. ชั่วคราว ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ 2 เที่ยวบิน โดยทำการสลับฝึกซ้อมเคลื่อนย้ายจากทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้การฝึกทบทวนการปฏิบัติดังกล่าว เป็นการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัย ในสถานการณ์จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงสงกรานต์ที่ใกล้มาถึงนี้ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต อบอุ่นใจในคำมั่น กองทัพบกเพื่อประชาชน