ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงหนุ่มโหด ก่อเหตุทุบตีลูกเลี้ยง 2 คน คนโต 2 ขวบเสียชีวิต คนเล็ก 6 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ยืนยันพลั้งมือตีไป 2 ที ไม่เคยทำมาก่อน เสียใจมากและอยากขอโทษทุกคน
วันที่ 17 ส.ค. 65 จากกรณีของน้องข้าวฟ่างเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทุบตีจนเสียชีวิต และพยายามปกปิดว่าลูกเพียงสำลักนมจนหยุดหายใจ และน้องชายของน้องข้าวฟ่างวัย 6 เดือน ที่ถูกทุบตีจนมีอาการสาหัส ล่าสุดเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพ่อเลี้ยงวัย 21 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก ที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลกได้ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้เกี่ยวกับคดีเด็กได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเด็กที่เกี่ยวข้องมาให้การช่วยเหลือและฝากเตือนผู้ปกครอง-เยาวชนที่มีลูกก่อนวัยสมควร ก็ต้องควรมีที่ที่ปรึกษาครอบครัวที่ดี เพราะบางทีการที่มีวุฒิภาวะน้อยการตัดสินใจต่างๆ บางครั้งก็ไม่ทันระวังตัวหรือไม่รอบคอบก็อาจจะเป็นอย่างเหตุการณ์นี้
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาออกมาเพื่อไปส่งฟ้องศาลต่อไปโดยระหว่างเดินออกมาที่รถผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่ทำลงไปพ่อเลี้ยงเด็กรับสารภาพว่า ได้พักมือลงมือทำร้ายเด็กจริงเนื่องจากโมโหที่เด็กซน ร้องไห้ แล้วน้องจะเล่นปลั๊กไฟเลยพลั้งมือตีไป 2 ที ยืนยันว่าตนลงมือเป็นครั้งแรก ตนเสียใจมากที่ผ่านมาก็รักลูก ตนอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษกับลูกจริงๆ
ส่วนที่วัดจุฬามณี ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องข้าวฟ่าง เช้าวันนี้ทีมสหวิชาชีพประกอบด้วยอัยการ ตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านแม่และเด็กจังหวัดพิษณุโลก คณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้นำท้องถิ่นในตำบลท่าทอง ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำแม่ของน้องข้าวฟ่าง ซึ่งยังเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวทางการช่วยเหลือเยียวยา
แม่น้องข้าวฟ่างเล่าให้ฟังว่าตน ทราบเรื่องตอนที่แฟนโทรไปบอกว่าน้องท้องเสีย แล้วพอตอน 4 โมงเย็น เขาโทรมาบอกอีกครั้งว่าน้องหมดสติไม่มีการเต้นของหัวใจแล้วเขาก็ทำ CPR ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นเขาทำร้ายลูกต่อหน้าเลยแต่ตอนไม่อยู่ด้วยกันตอนตนไปทำงานตนก็ไม่รู้ ปกติเวลาแฟนไปทำงาน ตนไปทำงานก็จะจ้างคนเลี้ยงลูก จะมีช่วงที่เขาหยุดให้แฟนเลี้ยงบ้าง บางทีตนก็มาเลี้ยงเอง วันเกิดเหตุตนออกไปทำงานตอน 13.30 น.น้องก็ปกติดี เล่นเหมือนเดิม
ด้านนางจันสุดา อายุ 44 ปี ผู้เป็นย่าของน้องข้าวฟ่างให้สัมภาษณ์สื่อสั้นๆ ว่ายังทำใจไม่ได้ น้องยังเด็กน่าสงสาร ฝากถึงคนร้ายที่ลงมือกับหลานสาวของตนว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้า ไม่ต้องมาขอขมาศพ ตนไม่ให้อภัยและไม่มีวันให้อภัยยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะตั้งสวดศพน้องข้าวฟ่างวันนี้อีก 1 คืน ก่อนจะเผาในวันพรุ่งนี้ตามประเพณีไทย
ขณะที่จำรัส อายุ 64 ปี เจ้าของร้านขายอาหารอยู่ด้านข้างหอพักที่เกิดเหตุ บอกว่าครอบครัวนี้มาเช่าห้องพักอยู่หลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นทะเลาะกันเสียงดัง พอทราบข่าวก็ตกใจมากเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กอายุแค่นี้เลย สงสารเด็ก ปกติตนก็เช้าไปเย็นกลับก็เคยเห็นน้องข้าวฟ่างบ้างก็เป็นเด็กน่ารัก น่าสงสารมากๆ เคยเห็นตัวพ่อเลี้ยงขับรถพาน้องข้าวฟ่างออกไปเที่ยว ก็ขับรถมือเดียวอีกมือก็จับน้องข้าวฟ่าง ก็ดูรักลูกเลี้ยงดี ไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ไม่รู้สาเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหากับพ่อเลี้ยงรายนี้ 2 ข้อหาหลักได้แก่ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยจะคัดค้านการประกันตัว ส่วนตัวแม่เด็กนั้นผลสอบปากคำยืนยันไม่ส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในเหตุการณ์ที่ตัวพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกๆ จากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจะหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือแม่ของเด็กก่อนเพื่อดูแลและเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจของตัวแม่เพราะยังเป็นเยาวชนและลูกชายอีกคนที่กำลังรักษาตัวอยู่