สืบสานประเพณีบุญเดือนสิบปิดทองหลวงพ่อปั้นแข่งขันเรือบก มีกว่า 60 ทีมร่วมวิ่งแข่ง คลุกโคลนสนุกสนาน

แบ่งปัน

ชาวบ้านเนินกุ่ม อ .บางกระทุ่ม สืบสานประเพณีบุญเดือนสิบปิดทองหลวงพ่อปั้นแข่งขันเรือบกประจำปี 2565 มีทีมเรือบก กว่า 60 ลำ ร่วมแข่งขัน คลุกโคลนกันอย่างสนุกสนาน ขณะผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก โชว์ฝีมือทอดข้าวเม่าพอกด้วยความคล่องแคล่วพร้อมอุดหนุนข้าวเม่า 2 แพกลับไปฝากคุณนายที่บ้านในราคา 2000 บาทอีกด้วย วันที่ 18 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเนินกุ่ม หมู่ 4 ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญเดือนสิบ “ปิดทองหลวงพ่อปั้น แข่งขันเรือบก ลิ้มรสข้าวเม่าทอด” ซึ่งชาวบ้านเนินกุ่มร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงงานบุญเดือนสิบ ก่อนที่จะงดจัดงานไปเป็นเวลา 2 ปี เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จนปีนี้สถานการณ์ดีขึ้นจึงกลับมาจัดงานอีกครั้ง

งานบุญเดือนสิบเป็นประเพณีที่สนุกสนานและสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน โดยเฉพาะการแข่งขันเรือบกที่จัดต่อเนื่องกันมายาวนานกว่าเกือบ 60 ปี ถือเป็นกีฬาพื้นบ้านหนึ่งเดียวของประเทศไทย มีทีมผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีร้านค้าขายอาหารหลากหลายให้เลือกซื้อหารับประทานด้วย สำหรับการแข่งขันเรือบกนั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน ในอดีตชาวบ้านเนินกุ่มจะแข่งขันเรือพายขนาดเล็ก เรือชาวบ้าน ในคลองเนินกุ่มที่อยู่หลังวัดเนินกุ่ม แต่ระยะหลังสภาพลำคลองเริ่มตื้นเขิน ไม่สามารถจัดแข่งขันเรือได้ ช่วง พ.ศ. 2500 สมัยอาจารย์เฉลียว เจ้าอาวาสในยุคนั้น จึงได้คิดค้นการแข่งขันเรือบกขึ้นมา เพื่อทดแทนการแข่งขันเรือในน้ำที่ไม่สามารถจัดได้ โดยกำหนดกติกาการแข่งขันเหมือนกับแข่งเรือทุกอย่าง ใช้บริเวณลานวัดเป็นที่แข่งขัน ส่วนอุปกรณ์หลักคือไม้ยาว 8 ศอก หรือ 4 เมตร ผู้แข่งขัน9 คน ใช้กติกาเหมือนแข่งเรือในน้ำ ชนะ 2 ใน 3 เที่ยว และถ้าเรือบกลำใดล้มก่อน ถือว่าแพ้ในรอบนั้น บรรยากาศการแข่งขันตั้งแต่เช้านี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เป็นสนามระยะทางยาว 100 เมตร

ทางผู้จัดได้นำน้ำมาเปิดเข้าพื้นที่ให้ดินแฉะเปื้อนในสภาพเจิ่งด้วยน้ำและขี้เลน ขี้โคลน ถ้าหากวิ่งไม่พร้อมกันก็จะสะดุดขาพากันล้มลุกคลุกคลานก่อนจะเข้าเส้นชัย ทีมใดล้มก็จะถือว่าแพ้ทันที ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 60 ทีม ถือว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมีกองเชียร์ที่นั่งลุ้นยืนลุ้นอยู่สองฝั่งทาง คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจทีมโปรดของตัวเองอยู่รอบสนาม การจัดงานบุญเดือนสิบ ก็เพื่อส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามไว้ให้คงอยู่สืบไป เพื่อส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมความสามัคคีในชุมชนสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหมู่บ้าน ตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท้องเที่ยวและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานยังได้ร่วมปิดทองหลวงพ่อปั้น

ชมแข่งขันเรือบก แล้วต้องไปรอต่อแถวเพื่อซื้อรสข้าวเม่าทอดต้นตำรับของวัดเนินกุ่ม ที่เตรียมกล้วยไข่นับหลายร้อยกิโลกรัม และแป้งข้าวเม่าลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเป็นแพสวยงาม จำกัดจำนวนให้ซื้อคนละ 20 แพเท่านั้น ราคาจำหน่ายแพละ 25 บาท ส่วนเงินที่ได้จากการจำหน่าย ก็จะนำเข้าวัดเพื่อทำบุญและเก็บไว้ทำนุบำรุงวัดวาอารามต่อไป ซึ่งปีนี้ผลตอบรับข้าวเม่าพอกดีมากต่อวันขายได้วันละ 40,000 บาท ซึ่งปกติแต่ละปีเฉลี่ยขายได้วันละประมาณ 20,000 บาทเท่านั้น แต่ปีนี้จะขายเพียง 5 วันเท่านั้นและวันนี้เป็นวันสุดท้าย โดยในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มาโชว์ฝีไม้ลายมือ ทอดข้าวเม่าพอกหน้าเตาร้อนๆ อีกด้วย ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ก็ทำได้ดี ดูคล่องตัวมาก ผู้สื่อข่าวได้กระซิบถามว่าท่านว่าการทอดข้าวเม่าสำหรับท่านผู้ว่าฯ นี่ยากมั้ย ท่านผู้ว่าฯ ตอบว่า ไม่ยากๆ ปกติอยู่บ้านเมียใช้ประจำ เรียกเสียงหัวเราะภายในเต้นท์การทอดข้าวเม่ากันอย่างเกลียวกราวเลยที่เดียว ก่อนที่ท่านผู้ว่าฯ จะช่วยอุดหนุนข้าวเม่าพอกไปฝากคุณนายที่บ้าน 2 แพเป็นเงิน 2,000 บาท แถมพูดขำๆตบท้ายว่า จะกลับไปเบิกเงินที่คุณนายที่บ้านแทน