หนุ่มพิษณุโลก สุดโหด บุกทำร้ายแฟนสาวพีอาร์ ก่อนจับแขน ขี่ จยย.ลากเข่าครูดถนนร่วมกิโล บาดเจ็บสาหัส

แบ่งปัน

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง โพสต์ภาพตนเองถูกทำร้ายร่างกายจากฝีมือแฟนตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมข้อความตัดพ้อว่า “น.ส.เอ (นามสมมุติ) ไปทำอะไรเหรอ ถึงต้องโดนขนาดนี้ต้องนอน รพ. อีก 1 เดือน เพราะแจ้งว่าต้องผ่าตัดเข่าข้างซ้ายอีก 1 ครั้ง ข้างขวา 3-4 ครั้ง จะกลับมาเดินได้ปกติไหมเน้อ อยากรู้ว่าไปอะไรผิดขนาดไหนถึงโดนตบในร้านข้ามต้ม ถึงโดนลากจากวัดโพธิ์ถึงสรรพากร เหมือนหมาตัวหนึ่งแบบนั้น น้องบอกพี่ร้องจนไม่ร้องคงสลบไป นี่แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงทำกะนี่แบบนั้น มันคือสิ่งที่นี่สมควรได้รับเหรอ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์แบบสดๆ เป็นภาพที่ผู้บาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน พร้อมข้อความระบุว่า “ก็ตามนี้แหละครับ ฟันหัก ปากแตกเย็บปาก หัวแตกเย็บหัว เข่าทั้งสองแล้วนิ้วโป้งทะลุถึงกระดูกผ่าตัดแล้ว เดินไม่ได้ประมาณ 2 เดือน อาจต้องผ่าตัดสมองเพราะมีเลือดคั่ง ตอนนี้อยู่ รพ.พุทธ ศัลยกรรมชั้น 3 #ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง #สำหรับพี่คนที่ขับตามหนูไปแล้วแจ้งตำรวจให้ตัวหน่อยนะคะ ฝากตามหาโทรศัพท์และกระเป๋า อยู่ร้านตั้งแต่ข้าวต้มอนันท์ยันถึงสรรพากร ฝากดูด้วยนะคะ อยากได้โทรศัพท์คืนค่ะ” ภายหลังมีการโพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์กันออกไปจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บในพื้นที่ ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้รับการเปิดเผยจากแม่ผู้บาดเจ็บ อายุ 56 ปี ว่า ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.เอ อายุ 33 ปี เป็นลูกสาวคนโต ทำงานเป็น PR เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ส่งเสียน้องเรียน ดูแลทุกคนในบ้าน ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงคืนของวันที่ 14 เม.ย. ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณตี 4 ตนได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่า ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส จึงรีบไปโรงพยาบาลทันที ก็พบสภาพลูกแล้ว สงสารลูกมาก มีแต่บาดแผล เลือดเต็มตัวอาการสาหัส ต้องนอนโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ฟันหัก ปากแตกเย็บปาก หัวแตก เย็บหัวเข่าทั้งสองแล้ว นิ้วโป้งเท้าทะลุถึงกระดูก หมอได้ทำการผ่าตัดแล้ว แต่จะเดินไม่ได้ประมาณ 2 เดือน อีกทั้งอาจต้องผ่าตัดสมองอีก เพราะมีเลือดคั่ง รวมถึงต้องผ่าตัดเข่าข้างซ้ายอีก 1 ครั้ง ข้างขวา 3-4 ครั้ง

แม่ผู้บาดเจ็บ เล่าอีกว่า จากการสอบถามทราบว่า วันเกิดเหตุลูกสาวไปทำงานที่ร้านข้าวต้มตามปกติ แต่อยู่ๆ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นแฟนของลูกสาว เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 5 เดือน ขี่รถ จยย. ไปหาลูกสาวตนที่ร้าน ก่อนกระชากโทรศัพท์และตบหน้าลูกตนต่อหน้าลูกค้า แล้วฉุดแขนขี่ จยย. ลากตัวลูกสาวตน ขาครูดไปกับพื้นถนนระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จนไปถึงหน้าบ้านของฝ่ายชาย สภาพลูกตนตอนนั้น พยานบอกคือสลบแล้ว มีแผลเต็มตัว นอนจมกองเลือด โชคดีพลเมืองดีที่ขับรถตามมาเห็นเหตุการณ์แจ้งตำรวจและกู้ภัยฯ ช่วยเหลือ เพื่อพาลูกตนส่งโรงพยาบาล

แม่ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยต่ออีกว่า หลังเกิดเรื่อง ตนได้รับการติดต่อจากแม่ผู้ก่อเหตุว่า ไม่เอาเรื่องได้ไหม ทำให้ตนเสียใจกับคำพูดนี้มาก ตอบกลับไปว่า ถ้าเป็นลูกสาวคุณโดนแบบนี้บ้างคุณจะทำใจไม่เอาเรื่องได้ไหม ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ต้องการรับคำขอโทษใดๆ ทั้งนั้น ทำทารุณโหดร้ายกับลูกสาวตนเกินไป ตลอดระยะเวลาที่คบลูกสาวตน ก็ทำร้ายร่างกายกันมาตลอด ลูกสาวฟกช้ำดำเขียวตลอด เคยบอกลูกว่าให้เลิกรากัน แต่ลูกสาวตนก็ให้อภัยมาตลอด แต่ครั้งนี้รุนแรงเกินไป เหมือนจะหมายเอาชีวิตกันเลย คนรักกันเขาไม่ทำร้ายกันแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็เกินไปที่ทำกันขนาดนี้

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และฝากขังไปแล้วตั้งแต่วันที่ก่อเหตุเลย ก่อนเจ้าตัวได้รับการประกันตัวออกไปเมื่อวาน (17 เม.ย.) ยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้เพิกเฉยต่อหน้าที่ และทำงานอย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้ได้สอบปากคำพยาน แม่ผู้ก่อเหตุ และตัวผู้ก่อเหตุไปเรียบร้อยแล้ว รอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น ก็จะไปสอบปากคำประกอบสำนวนคดี และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป