จนท.สนธิกำลังตรวจสอบรีสอร์ทอีก 2 แห่ง ด้านใต้ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก พบบุกรุกเนื้อที่อุทยานฯ กว่า 1 ไร่ สรุป 9 วัน ลุยตรวจยึดพื้นที่รีสอร์ทแล้ว 6 ราย เนื้อที่กว่า 5 ไร่ สิ่งปลูกสร้างอีก 36 หลัง

แบ่งปัน

จนท.สนธิกำลังตรวจสอบรีสอร์ทอีก 2 แห่ง ด้านใต้ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก ก่อสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พบบุกรุกเนื้อที่กว่า 1 ไร่ สรุป 9 วัน หลัง นทท.ชี้เป้า ลุยตรวจยึดพื้นที่รีสอร์ทแล้ว 6 ราย เนื้อที่กว่า 5 ไร่ สิ่งปลูกสร้างอีก 36 หลัง

จากกรณีมีนักท่องเที่ยวชี้เป้าว่า พบการก่อสร้างอาคารที่พักใกล้กับผาหัวสิงห์ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการตั้งคำถามจากโลกออนไลน์ว่า การสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารที่พัก และแนวเขตพื้นที่ของรีสอร์ท ดำเนินการถูกต้องและเป็นการบดบังทัศนียภาพอันสวยงามทางธรรมชาติของผาหัวสิงห์หรือไม่ ต่อมาที่ปรึกษา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป. 4 กอ.รมน ตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปทส. ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.เปิดเผยว่า วันนี้ (27 ก.ค.)ได้ร่วมกับ นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ นำกำลังคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านทิศใต้ของผาหัวสิงห์ พบว่ามีรีสอร์ทก่อสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ 2 แห่ง โดยแห่งแรกคือ “สวนสวรรค์ภูทับเบิก” ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ห่างจากผาหัวสิงห์ ประมาณ 200 เมตร มีหินก้อนขนาดใหญ่ด้านบน ซึ่งก้อนหินทำเป็นบันไดขึ้นไปชมวิวได้ 360 องศา ต่อจากก้อนหินใหญ่ตลอดแนวหน้าผาเชื่อมต่อจากผาหัวสิงห์ ความยาวประมาณ 200 เมตร มีการก่อสร้างอาคารที่พักรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ประกอบด้วยอาคารถาวรทำด้วยคอนกรีต หลังคามุงด้วยเมทัลชีท ด้านหน้าผาทำเป็นกระจก จำนวน 4 หลัง และมีฐานกางเต้นท์โดมริมหน้าผารวม 15 โดม และอยู่บนก้อนหินอีก 2 โดม ปลายหน้าผาทำบันไดขึ้นไปบนเนินเขาที่ชันและอันตรายมาก เพื่อทำเป็นจุดเช็กอิน “สวนสวรรค์” ซึ่งจุดนี้สามารถชมวิวผาหัวสิงห์และมองเห็นวัดผาซ่อนแก้ว อ.เขาค้อ ได้อย่างชัดเจน ส่วนอีกด้านของรีสอร์ทอยู่ในพื้นที่ที่ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอใช้ประโยชน์จากป่าไม้ และได้จัดให้ราษฎรรายนี้ทำกิน แต่รีสอร์ทรายนี้สร้างออกนอกเขตที่ได้รับอนุญาตจาก พม. เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุกคำนวณเนื้อที่ 1-2-69 ไร่ จึงตรวจยึดดำเนินคดี พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย บ้านพักถาวร ขนาด 5 x 4 เมตร จำนวน 4 หลัง โดม จำนวน 5 หลัง แคร่ไม้ไผ่เพื่อใช้ในการกางเต็นท์ ขนาด 4 x 4 เมตร จำนวน 15 ตัว แคร่พื้นยิปซั่ม ขนาด 3.6 x 3.6 เมตร พร้อมราวเหล็ก จำนวน 3 ตัว

พ.อ.พงษ์เพชร เปิดเผยต่อว่า ส่วนแห่งที่ 2 คือ “กู๊ดวิว ฮอตวิว ภูทับเบิก” อยู่ริมหน้าผาด้านทิศใต้ ห่างจากผาหัวสิงห์ประมาณ 100 เมตร มีการปรับพื้นที่ทำเป็นลานกางเต้นท์ยาวประมาณ 100 เมตร มีเพียงรั้วไม้ชั่วคราวกั้นกันตกริมหน้าผาเท่านั้น มีการก่อสร้างเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์เป็นแถวตามแนวหน้าผา จำนวน 5 ต้น โดยนักท่องเที่ยวติดต่อจองที่พักกางเต้นท์ ผ่านทางเพจของรีสอร์ท โดยคิดค่าบริการเต้นท์ละ 150 บาท/คืน ซึ่งรีสอร์ทรายนี้ใช้ประโยชน์ออกนอกเขต ที่ได้รับอนุญาตบุกรุกเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เจ้าหน้าที่จึงจับค่าพิกัดพื้นที่บุกรุกคำนวณเนื้อที่ได้ 0-2-82 ไร่ จึงตรวจยึดดำเนินคดีพร้อมสิ่งปลูกสร้างเสาไฟจำนวน 6 ต้น 

“สรุปผลการตรวจยึดพื้นที่รีสอร์ท บริเวณผาหัวสิงห์ ตั้งแต่วันที่ 19-27 ก.ค.66 รวมทั้งหมด 6 ราย เนื้อที่รวม 5-3-31 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 36 หลัง” พ.อ.พงษ์เพชร กล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงจัดทำบันทึกเรื่องราว พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (1) “ฐานยึดถือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม” และความผิดตามมาตรา 19 (6) “ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์” โดยมอบให้ นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เป็นผู้กล่าวโทษ

ที่มา – ไทยรัฐ