คลังน้ำมัน ปตท. พิษณุโลก จัดกิจกรรมซ้อมแผนฉุกเฉินดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ประจำปี 2562

แบ่งปัน

8 พฤษภาคม 2562 คลังน้ำมัน ปตท. พิษณุโลก จัดกิจกรรมซ้อมแผนฉุกเฉินดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ประจำปี 2562 ร่วมกับหน่วยงานดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลก สภ.เมืองพิษณุโลก และ โรงพยาบาลพิษณุเวช เพื่อวางแผนป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการจ่ายน้ำมัน ในกิจกรรมมีตัวแทนชุมชนรอบคลังฯเข้าร่วม เพื่อเตรียมความพร้อมอพยพอีกด้วย โดยมีบุคลากรของหน่วยงาน รวมทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน จำนวน 100 คน  เข้าร่วมการซ้อมแผนครั้งนี้ด้วย

สำหรับการฝึกซ้อมแผนครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการภาคสนาม (Field Trainning Exercise : FTX) ตามแผนเผชิญเหตุในสถานการณ์จำลองเสมือนจริง ซึ่งได้มีการสมมุติเหตุการณ์ เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันที่กำลังจะเข้าส่งน้ำมัน  ชนกับรถบรรทุกน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 95 ขนาด 32,000 ลิตร และรถบรรทุกน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 95ขนาด 32,000 ลิตร ที่ประสบเหตุยังไม่ได้ดึงวาล์วฉุกเฉินใต้ท้องรถ จึงทำให้น้ำมันรั่วไหล จุดติดประกายไฟจนเกิดการลุกไหม้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้กับถังเก็บน้ำมันชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 120,000 ลิตร ถึง 150,000 ลิตร และสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงขยายวงกว้าง ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในที่เกิดเหตุ จึงต้องกดสัญญาณแจ้งเหตุกรณีฉุกเฉิน เรียกระดมกำลังพลเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายในหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติการเข้าแก้ไขสถานการณ์และระงับเหตุตามลำดับขั้นตอน

โดยการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการเกิดเหตุ และเข้าระงับเหตุเบื้องต้นด้วยการฉีดผงเคมีดับเพลิงแล้ว แต่ไม่สามารถดับเพลิงที่โหมลุกไหม้ได้ จึงมีการรายงานขอรับกำลังสนับสนุน จากหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ และขอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาระงับเหตุในพื้นที่ พร้อมกับทำการอพยพผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกเขตพื้นที่อันตราย และแจ้งเตือนประชาชนในบริเวณเขตพื้นที่ใกล้เคียงทราบ จากนั้นจึงได้นำหน่วยกู้ภัยที่มีความรู้ด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายเข้าตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุ ทำการฉีดพ่นสารเคมีควบคุมพื้นที่ระงับเปลวไฟ พร้อมประสานหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำออกจากพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากทุกหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมกันเข้าระดมฉีดโฟมป้องกันเชื้อไฟโดยรอบทุกทิศทาง จนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

ทั้งนี้มีบุคลากรของหน่วยงาน รวมทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติเข้าใจถึงขั้นตอนการเผชิญเหตุ และมีความพร้อมในทุกสถานการณ์ สามารถที่จะปฏิบัติใช้งานอุปกรณ์ในการป้องกันเหตุร้าย หรือเหตุที่ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถที่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเหมาะสม ภายใต้การประสานงานอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสาธารณชนให้น้อยที่สุด อีกทั้งเพื่อยังเป็นการพัฒนาระบบการประสานงานและการสื่อสารระหว่างเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย