ลุงตู้วัย 60 ปี ทำสวนผสมผสาน ปลูกอินทผาลัม สร้างรายได้สู่ลูกหลาน

แบ่งปัน

ชาวบ้านหอกลอง พรหมพิราม ปลูกอินทผาลัมพืชเศรษฐกิจทางเลือก ปลูกได้กำไรดี ราคาหน้าสวนหลักร้อย ลงทุนปลูกครั้งเดียวถึงรุ่นลูกหลาน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เยี่ยมชมสวนอินทผาลัม ริเวอร์ไซด์ของ นายสมชาย แสงจันทร หรือลุงตู้ อายุ 60 ปี เจ้าของสวนอินทผาลัม ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก มีเนื้อที่ปลูกจำนวน 30 ไร่ 600 กว่าต้น

นายสมชาย เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้ตนปลูกพืชสวนแบบผสมผสาน มีผลไม้ต่างๆ อาทิ มะปราง มะม่วง มะขามฟักใหญ่ เป็นต้น อีกทั้งตนเป็นคนชอบรับประทานอินทผาลัม แล้วนำเมล็ดมาเพาะปลูกลองผิดลองถูกมานาน ต้นอินทผาลัมเป็นพืชประเภทปาล์ม มีอายุ 100 ถึง 120 ปี เป็นพืชที่ชอบแสงแดด ชอบอากาศร้อน แต่ขาดน้ำไม่ได้ ไม่ชอบดินชุ่ม ปลูกกับดินปนทรายจะดีที่สุด และศัตรูของต้นอินทผาลัมคือด้วงแรดด้วงงวงช้าง ด้วงแรด สวนอินทผาลัมริเวอร์ไซด์มีพันธุ์อินทผาลัม ที่เพาะปลูกกว่า 10 สายพันธุ์ อาทิเช่น สายพันธุ์บาฮี พันธุ์โคไนซี พันธุ์อัมเอดดาฮาน เป็นต้น ซึ่งตระกูลต้นอินทผาลัมมาจากประเทศอังกฤษ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยทางสวนอินทผาลัมริเวอร์ไซด์ได้นำต้นกล้าที่เพาะมาจากเนื้อเยื่อจากต่างประเทศมาเพาะปลูก และเพาะพันธุ์ด้วยเมล็ด แต่ก็ต้องวัดใจว่าจะเป็นต้นตัวผู้ หรือตัวเมีย ต้องรอผล 2 ปี ดูจากการออกผลผลิต อินทผาลัมเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความต้องการสูงในช่วงเทศกาลถือศีลอด ของชาวมุสลิม และเป็นตัวยาที่ลดโรคเบาหวาน โดยทั่วไปแล้วอินทผาลัมสามารถรับประทานแบบดิบและแบบแห้ง แบบดิบจะมีรสชาติหวานน้อยเนื้อกรอบ แบบแห้งจะมีรสชาติหวานภายในเนื้อของอินทผาลัมชุ่มฉ่ำเหมือนน้ำเชื่อม รสชาติอร่อย แตกต่างกับที่บรรจุอยู่ในกล่องจำหน่ายห้างร้านต่างๆ ปัจจุบันราคาขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 500 บาทขึ้นไป

สำหรับท่านใดที่สนใจอินทผลัมสามารถ เดินทางได้ที่สวนอินทผาลัมริเวอร์ไซด์ ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก หรือโทรหาลุงตู้ ได้ที่เบอร์ 0817759260 , 0800616655