เวลา 10.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตามแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มนายทุน ที่บุกรุกทรัพยากรป่าไม้พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ยุทธการพิทักษ์ป่าครั้งที่ 2/2562 จำนวนราว 100 นาย ประกอบด้วย ศปป.4 กอ.รมน., กอ.รมน.เพชรบูรณ์, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (พิษณุโลก) ตำรวจ กก.4 บก.ปทส., ชป.ตชด.เพชรบูรณ์, ฝ่ายปกครองอำเภอหนองไผ่และป่าไม้ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ นำโดยพล.ต.ไพฑูรย์ เปี่ยมจิตต์ รองผอ.ศปป.4 กอ.รมน. และนายชิต อินทรนก ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก เปิดปฎิบัติการทวงคืนผืนป่าจากนายทุน บริเวณป่าหลังบ้านสันเจริญ หมู่ที่ 6 ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลำกงและป่าคลองตะโก
จากการตรวจสอบพบสภาพบริเวณพื้นที่ป่าดังกล่าว ได้ถูกนายทุนใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ปรับไถภูเขาเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมการเพาะปลูก นอกจากนี้ยังพบมีการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์และต้นสะตอในพื้นที่บางส่วนแล้ว ระหว่างการตรวจสอบไม่พบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหลังทางเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์จับวัดค่าพิดัดทางอุปกรณ์ พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกเนื้อที่ราว 40-1-12 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 2,748,877 บาท และจากการตรวจสอบถาพถ่ายทางอากาศพบว่าพื้นที่ป่าถูกบุกรุกอยู่ในลุ่มน้ำชั้น 2 และ 3 และอยู่นอกเขตที่ดิน ส.ป.ก.
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ฯจึงร่วมกันทำการบันทึกตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นมอบให้นายภูรีย์วัฒน์ จันแจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.9 (บ้านโคกเจริญ) รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมรุดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ เพื่อให้ติดตามผู้กระทำผิดและนายทุนรายนี้มาดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบข้อมูลพื้นที่เป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย ในห้วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึงวันที่ 30 กันยายน พบว่ามีพื้นที่เป้าหมายดำเนินการในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งสิ้น 23 แปลง เนื้อที่ราว 5,488 ไร่ โดยทางเจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครอบมาแสดงตนพร้อมนำเอกสารสิทธิ์มาแสดง หากพบว่ามีการครอบครองผิดกฎหมายหรือผิดเงื่อนไขก็จะมีการบังคับใช้กฎหมายในโอกาสต่อไป ส่วนที่ดินแปลงที่คณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดคืนจากนายทุนในวันนี้ไม่ได้อยู่ในจำนวน 23 แปลง จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบว่านายทุนรายนี้มีการบุกรุกป่าและใช้เครื่องจักรไถปรับภูเขาอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวกฎหมาย