ต้นกำเนิด “คูราช” กีฬาที่เก่าแก่อีกชนิด ที่ผู้คนไม่ค่อยรู้จัก

แบ่งปัน

กีฬา คูราช (KURASH) คูราช เป็นกีฬาการปล้้าต่อสู้ในท่ายืน มีต้นกำเนิดจากแถบอุสเบกิสถานเมื่อ3,500 ปีมาแล้ว “คูราช” เป็นค้า ภาษาอุสเบก หมายถึง “การไปให้ถึงจุดหมายอย่างสมเหตุสมผลหรือวิธีที่ยุติธรรม” ใน ประวัติศาสตร์ของประเทศทางตะวันออกในทวีปเอเซียได้กล่าวไว้ว่าคูราชเป็นศิลปะการต่อสู้ หรือกีฬาของ สาธารณชนเพื่อความสนุกสนาน ตำนานของเอเซียกลางเมื่อ1,000 ปีก่อนกล่าวว่า คูราชเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดและนิยมฝึกฝนอย่างกว้างขวางในเอเซียกลาง คูราชเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการรักษาสุขภาพทางร่างกายและทางจิตใจของมนุษย์ แต่ไม่ปรากฏแน่นอนว่า คูราชได้เริ่มฝึกฝน หรือ มีกำเนิดครั้งแรกโดยใคร ที่ไหน และเมื่อใด แต่ส่วนมากต่างเห็นพ้องต้องกันว่าคูราช เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ประเภทหนึ่งที่ผู้คนฝึกฝนกันมา

     คูราชได้กลับมาพัฒนาใหม่ในศตวรรษที่8 ผู้คนในเอเซียกลางสมัยนั้นใชคูราชเพื่อความสนุกสนาน และเฉลิมฉลองเทศกาลที่สำคัญ ๆ ทางสังคม เช่นวันหยุดพักผ่อน งานสมรส และพิธีฉลองต่าง ๆ คูราช ได้พัฒนาจากการเล่นเพื่อความสนุกสนานกลายเป็นกีฬาเพื่อการแข่งขันและการพัฒนาความ แข็งแกร่งของร่างกาย นักกีฬาคูราชที่มีชื่อว่าแข็งแรงที่สุดในศตวรรษที่12 คือ พาลาวาน มาฮาหมัด และสุสานที่อุสเบกิสถานของเขานับได้ว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ผู้คนในเอเซียกลางไปเคารพบูชา ในศตวรรษที่14 สมัยที่ติมอร์รุ่งเรืองและมีความเจริญทางอารยธรรม ได้ใชคูราชเพื่อฝึกฝนและ พัฒนาความสมบูรณ์แข็งแรงของเหล่าทหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลกในสมัยนั้นว่า ทหารติมอร์มีความแข็งแรงเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครโค่นได้

     เมื่อเวลาผ่านไป คูราช ได้กลายเป็นที่ยอมรับและเป็นประเพณีนิยมในเอเซียกลาง โดยเฉพาะใน อุสเบกิสถาน อาจจะกล่าวได้เลยว่าคูราชได้ฝังเข้าไปในกระดูกของชาวอุสเบกแล้ว คูราชได้รับ การถ่ายทอดจากพ่อสู่ลูก ชาวอุสเบกในปัจจุบันนี้ประมาณไม่น้อยกว่าสองล้านคนที่สนใจฝึกฝน คูราช ไม่นับรวมผู้ที่ชื่นชอบและติดตามกีฬาประเภทนี้

     คูราชในยุคปัจจุบัน ประมาณสองทศวรรษก่อน โคมิล ยูซูปอพ (MR.KOMIL YUSPOV) นักกีฬาชาวอุสเบกผู้มีชื่อเสียงทางคูราช ยูโด และแซมโบ ผู้ที่ปลุกให้คูราชฟื้นขึ้นมาในโลกแห่ง กีฬาได้เป็นผู้เริ่มค้นคว้าศึกษาความเป็นมาของคูราช เทคนิค การเล่น และร่างกฏกติกาของคูราชขึ้นมาใหม่เพื่อใหทัดเทียมกับมาตราฐานสากล ประมาณต้นปี 2533 ที่เขาจบการค้นคว้าและเริ่มนำคูราชเข้าสู่กีฬาโลกยูซูปอพได้เป็นผู้นำเสนอกติกาคูราช ที่ได้ร่างขึ้นมาต่อสาธารณชน และสมาพันธ์คูราชนานาชาติได้ให้การรับรองกติกาคูราชของ โคมิล ยูซูปอพ เป็นกติกาอย่างเป็นทางการของสมาพันธ์คูราชนานาชาติกติกาใหม่นี้ได้รวมส่วนที่ดีที่สุด ของกีฬาประจำชาติให้สอดคล้องเข้ากับมาตรฐานกีฬาสากล เช่น เครื่องแต่งกาย สนามแข่ง ระยะเวลาใน การแข่งขันฯลฯผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาต่างยอมรับว่ากติกาคูราชที่โคมิลยูซูปอพ ได้เป็น ผู้พัฒนาปรับเปลี่ยนนั้นสมบูรณ์ตรงตามความต้องการของการกีฬาสากล

     กติกาคูราชที่มีประโยชน์อย่างหนึ่งก็คือ การห้ามปล้ำต่อสู้บนพื้น เมื่อใดที่เข่าของนักกีฬาแตะพื้น กรรมการจะต้องหยุดการแข่งขัน และจะเริ่มการแข่งต่อไปใหม่เมื่อนักกีฬากลับเข้าสู่ท่ายืนแล้ว นอกจากนั้นกติกาจะไม่อนุญาตให้นักกีฬา จับคู่ต่อสู้ต่ำกว่า เข็มขัด ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยให้คูราชเป็นกีฬาที่ใช้ความรวดเร็วและน่าสนใจติดตาม นอกไปจากนั้นกติกาคูราชยังห้ามไม่ให้นักกีฬาใช้แขนล็อคคู่ต่อสู้ การหนุนไม่ให้เคลื่อนไหว หรือการใช้เทคนิคอื่น ๆ ที่แปลก ๆ ออกไป อันจะเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้นักกีฬาเกิดการบาดเจ็บและทำให้คูราชเป็นกีฬาที่ปลอดภัยที่สุดของศิลปะการ ต่อสู้ประเภทหนึ่ง

     เมื่ออุสเบกิสถานได้รับการประกาศตัวให้เป็นอิสระจากมอสโคว์ สหภาพโซเวียตใน พ.ศ. 2534 คูราชก็เริ่มมีการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ประธานาธิบดีอิสลาม คาริมอฟ ผู้น้ารัฐบาลอุสเบกิสถานคนแรก มีความประสงค์ที่จะฟื้นฟูค่านิยมและจารีตประเพณีของชาวอุสเบกที่ถูกบีบอยู่ภายใต้การปกครอง ของโซเวียตเป็นเวลา70 ปีและคูราชก็เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพัฒนา เมื่อเดือน เมษายน 2535 ประธานาธิบดีคาริมอฟได้พบกับโคมิล ยูซูปอพ เพื่อหารือถึงการพัฒนากีฬาแห่งชาติให้ขยายออกไปทั่วโลก โดยมีจุดประสงค์ว่าคูราชจะต้องได้เป็นกีฬาสากลตลอดจน ได้เข้า ไปจัดอยู่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค นับจากนั้นเป็นต้นมา โคมิล ยูซูปอพ ก็ได้เริ่มเผยแพร่คูราช เข้าไปในกิจกรรมต่าง ๆ ของอุสเบกิสถาน จัดการแข่งขันหลาย ๆ รายการในภาคต่างๆ ของอุสเบกิสถาน คูราชประสบความสำเร็จและสร้างผู้เล่นคูราชท้องถิ่นขึ้นมาเป็นพัน ๆ คน ได้รับการ ต้อนรับอย่างล้นหลามและเฝ้าติดตามจากผู้ชมเป็นล้าน ๆ คนเมื่อมีการแข่งขันในเทศกาลต่าง ๆ ของ อุสเบกิสถาน

     ตั้งแต่ 2535 คูราชได้ขยายวงกว้างออกไปจากอุสเบกิสถาน เข้าสู่การแข่งขันระดับสากล นำเข้าสู่ การประชุมสุดยอดกีฬาเกาหลีใต้ แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย อเมริกา โมนาโค และรัสเซีย ส่งผลให้ มีการจัดการแข่งขันคูราชระดับนานาชาติขึ้นครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ที่ทัชเค็นท์ เมืองหลวงของอุสเบกิสถาน มีนักกีฬาและประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันจากทั่วโลกเกือบ 30 ประเทศ ผู้เข้าชมในวันเปิดสนามแข่งขันไม่น้อยกว่า 30,000 คน และติดตามการถ่ายทอดโทรทัศน์ อีกเป็นล้าน ๆ คน และการแข่งขันคูราชครั้งแรกนี้นับว่าประสบความสำเร็จ ที่นั่งชมการแข่งขัน จำนวน 30,000 ในสนามไม่เพียงพอสำหรับผู้ชม ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนั้นคือ ซาลิม ตาตาร์ โอกลู นักกีฬาจากตุรกี

     สหพันธ์คูราชนานาชาติได้จัดตั้งขึ้นที่ทัชเค็นท์ในวันที่ 6 กันยายน 2541 โดยผู้แทน 28 ประเทศ จากยุโรป เอเซีย และอเมริกา เพื่อเป็นองค์กรกีฬาโลกอย่างเป็นทางการของคูราชนานาชาติเป็น ครั้งแรกที่สภาสหพันธ์กีฬาให้การรับรองกติกาคูราชและมีมติเป็นเอกฉันท์ให้น ายโคมิล ยูซูปอพ (MR.KOMIL YUSPOV – PRESIDENT of IKA) ผู้จัดทำกติกาคูราชนานาชาติเป็น นายกของสหพันธ์คูราชนานาชาต ิINTERNATIONAL KURASH ASSOCIATION ( IKA)

     ต้นเดือนพฤษภาคม 2542 ทัชเค็นท์จัดการแข่งขันชิงแชมป์คูราชโลกครั้งแรก มีสมาชิกเข้าร่วมใน การแข่งขัน 48 ประเทศ จาก 5 ทวีป คือ ยุโรป เอเซีย อัฟริกา อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ซึ่ง ไม่เคยมีมาก่อนในโลก นายอิลาม คาริม็อฟ ประธานาธิบดีอุสเบกิสถานและนายกกิติมศักดิ์ของ สมาพันธ์คูราชนานาชาติได้กล่าวไว้ในพิธีเปิดการแข่งขันชิงแชมป์คูราชโลกครั้งแรกว่า คูราชเป็น กีฬาที่ถ่ายทอดความมีน้ำใจและลักษณะนิสัยของชาวอุสเบก ในเรื่องของความกล้า ความไม่เกรง กลัว ความมีน้ำใจ ความยุติธรรม ความซื่อตรงและความรักเพื่อนมนุษย์ ซึ่งลักษณะดังกล่าวใน กีฬาทั้งหมดนี้จะเป็นโอกาสที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความรักของมวลมนุษย์ทั่วโลก

     นับจากสมาพันธ์คูราชนานาชาติได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ2541 เป็นต้นมา สมาพันธ์คูราชเอเซียก็ได้พัฒนา และเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในเอเซีย มีประเทศที่เข้าร่วมอยู่ในสมาพันธ์ฯ เวลานี้ 25 ประเทศ มีดร. โมฮัมเหม็ด เดรัคชาน (MOHAMMAD DERAKHSHAN MOBARAKEH) ดำรงตำแหน่งนายกสมาพันธ์คูราชเอเซีย และอุปนายกสมาพันธ์คูราชนานาชาติ

ขอบคุณภาพจาก สมาคมกีฬาคูราชแห่งประเทศไทย