วันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ทีมคนทำความดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลกและ เจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก เข้าตรวจสอบกรณี เพื่อนบ้านวอนหน่วยงานให้เข้าช่วยเหลือหลังพบว่า มีลูกใช้ท่อนไม้และขาค้ำยันเหล็กทุบตีทำร้ายแม่ ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตพื้นที่ เทศบาลนครพิษณุโลก บ้านเลขที่ 330 ถนนศรีธรรมไตรปิฎก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
เบื้องต้นภายในบ้าน พบนางเฉลียว จันทร์ฟุ้ง อายุ 48 ปี อยู่ภายในบ้านกับ สุนัขจำนวน 15 ตัว และนางมาลี จันทร์ฟุ้ง อายุ 83 ปี นั่งอยู่บนเตียง ผู้นำชุมชนจึงพาเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบและพูดคุย สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางมาลี ยอมรับว่าตนเองทุบตีแม่จริง เพราะแม่มักจะหนีออกจากบ้าน ตนเองดูแลไม่ไหว แต่ก็ตีแม่เพียงแค่ทีเดียวเท่านั้นเพื่อให้หยุด หนีออกจากบ้าน นางมาลีบอว่าตนเองก็รักแม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเพราะมีพยานหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ถึงความรุนแรง
สอดคล้องกับคำบอกเล่าของนางสมควร จงสิริ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน ที่เคยเห็นยายพยายามหนีออกจากบ้าน ปีนรั้วและตกอยู่หน้าบ้านเป็นประจำ และทุกวันจะได้ยินเสียงทะเลาะและทำร้ายร่างกายเป็นประจำ เพราะลูกของยายมักจะดื่มเหล้าจนเมามาย ประกอบกับยายหูตึง พูดคุยกันไม่รู้เรื่องจึงถูกทำร้ายร่างกาย
และเมื่อตรวจสอบร่างกายของยายมาลีเบื้องต้น พบว่ามีร่องรอยบาดแผล นางมาลีบอกว่าเป็นบาดแผลที่ถูกลูกตีเนื่องจากมีตะปูอยู่ติดกับไม้ที่ลูกใช้ตีที่แขนเป็นบาดแผล ยายมาลีมีอาการดีใจที่มีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ส่วนนางเฉลียวมีอาการไม่พอใจเพราะตนเอง ดูแลแม่ได้ ไม่ต้องการให้ใครมานำแม่ไป ถึงแม้ว่าแม่จะดื้อไปบ้าง ตนเองก็มีวิธีควบคุม ไม่ให้แม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและผู้นำชุมชนจึงมีมติร่วมกันนำตัวยายไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายและรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ก่อนที่จะสรุปทำเรื่องคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้สูงอายุ นำตัวยายมาลีส่งไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลำปาง ซึ่งมีความพร้อมดูแลผู้สูงอายุมากว่าที่จังหวัดพิษณุโลก
นางสาวสิริภัทร บุญธรรม ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า ยายมาลีเป็นคนในชุมชน เมื่อก่อนมีอาชีพค้าขายและผูกพันอยู่กับบ้านหลังนี้ ยายมาลี เป็นคนพิการ หูตึงและมีโรคอัลไซเมอร์ มีบัตรคนพิการ มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีเบี้ยผู้สูงอายุ ช่วงเวลาที่ผ่านมา เงินและสิทธิจะถูกลูกนำเอาไปใช้ซื้อดื่มเหล้า การแก้ไขครั้งที่ผ่านมา ก็จะเปลี่ยนไปส่งให้ลูกชายยายอีกคนหนึ่ง ทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครและเคย ส่งยายไปอยู่กับญาติที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ยายมาลีก็อยากกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ จึงนำยายกลับมาแล้วก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้อีกเป็นประจำ ช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตั้งตู้แดงเอาไว้ และได้รับแจ้งเหตุทะเลาะภายในบ้านหลังนี้หลายครั้ง ก็ได้พยายามห้ามปรามและไกล่เกลี่ยแต่ก็ยังคงเกิดเหตุขึ้นอีกซ้ำๆ
นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว เปิดเผยว่า หน่วยงานในสังกัด กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะให้การช่วยเหลือ ยายมาลี นำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อน จากนั้นจะไม่ส่งตัวกลับมาที่บ้านหลังนี้อีก โดยจะส่งตัวยายไปพักอยู่ที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึงจังหวัดลำปาง เพื่อปกป้องไม่ให้ยายมาลีถูกทำร้ายร่างกายและสภาพจิตใจอีกต่อไป
ด้าน นางเฉลียวและสามี เจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก จะทำรวบรวมพยานหลักฐานให้อัยการ ขอคำสั่งจากศาลเพื่อนำตัวทั้งสองคนเข้าสู่การบำบัดติดสุรา ส่วนสุนัขทั้ง 15 ตัว เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก จะเข้ามาจับแล้วนำไปเลี้ยงไว้ที่ สถานสงเคราะห์สัตว์ เทศบาลนครพิษณุโลกต่อไป