ภารกิจกู้รถไฟขบวน 201 ตกราง สถานีรถไฟบ้านใหม่

แบ่งปัน

เนื่องด้วยวันที่ 10 กรกฏาคม 2563 เวลา 17.45 น. ได้เกิดเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 201 (กรุงเทพ – พิษณุโลก) ตกรางในเขตสถานีบ้านใหม่ จ.พิษณุโลก จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่กรณีนี้ทำให้รถจักรดีเซลทำการเลขที่ 4523 ตกรางทุกเพลาทุกล้อ และรถพ่วง ประกอบด้วย ตู้ทำการพนักงานขบวนรถ และตู้โดยสารอีก 2 คัน ตกรางทุกเพลาทุกล้อ เป็นเหตุให้ขบวนรถกีดขวางการเดินรถในเส้นทางสายเหนือ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้ ไม่สามารถเดินรถ ขึ้น-ล่อง สายเหนือได้เป็นการชั่วคราว ซึ่งขวนรถ 408 ปลายทางนครสวรรค์ ต้องจอดรอที่บริเวณสถานีบ้านใหม่ ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างบนขบวนรถจำนวนมาก

โดยตลอดทั้งคืนวันที่ 10 กรกฏาคมต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 11 กรกฏาคม 2563 เจ้าหน้าที่รถไฟ รวมถึงเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ได้เร่งดำเนินการเก็บกู้หัวรถจักรและโบกี้ที่หลุดจากราง โดยการรถไฟ ได้นำรถพิเศษช่วยอันตรายจากสถานีศิลาอาสน์ และโรงรถจักรบางซื่อ มายังที่เกิดเหตุ  เพื่อทำการยกชบวนรถไฟที่ตกราง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการโยธาเร่งซ่อมจุดเกิดเหตุ เพื่อเปิดใช้งานเดินรถไฟสายเหนือได้ตามปกติโดยเร็ว ซึ่งจากการประเมินจะสามารถเปิดทางได้ในเวลาประมาณ 03.00 น.

ล่าสุดใสนช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา นายวัชรชาญ สิริสุวรรณ วิศวกรใหญ่ ฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รถช่วยพิเศษอันตรายบางซื่อ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยช่วยกันยกหัวรถจักร ไว้บนรางที่  2 หรือ ชานชาลา ที่ 2 ของในการช่วยเหลือกู้หัวรถจักร ขบวนที่  201 โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลา กว่า 2 ชม.ก็สามารถนำหัวรถจักรขึ้นมาไว้อยู่บนรางชานชะลา ได้เป็นผลสำเร็จ ท่ามกลางมีประชาชนมานั่งให้กำลังใจกัน

โดยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันตลอดทั้งคืน และได้รับความร่วมมือจากทหารมณฑลทหารบกที่  39 ที่นำรถเครนและกำลังพลมาช่วยยกโบกี้ ทั้ง 4 โบกี้ เป็นผลสำเร็จ และทางเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 9 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยในการนำไฟมาส่องสว่างในการทำงานอีกด้วย และเช้าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการกู้หัวรถจักรให้เสร็จภายใน  3 ชม. เพื่อให้รถไฟได้สามารถเดินได้ตามปกติ ซึ่งทำให้การเดินทางจากภาคกลางไปสู่ภาคเหนือ อาจล่าช้าไปบ้าง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้กู้หัวรถจักรเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นจะมีหน่วยพิสูจน์สาเหตุของการตกรางครั้งนี้ อีกครั้ง