ผู้สื่อข่าวได้ผ่านไปบริเวณถนนเส้นพิษณุโลก – วัดโบสถ์ ก็ได้พบกับรถพ่วงข้าง จึงได้สอบถาม ได้พบกับ นายสอน แสงอินทร์ อายุ 62 ปี ตนเป็นคนอำเภอชาติตระการ เดิมทีบวชเป็นพระอยู่ที่อำเภอนครไทย ได้ 26 พรรษา แล้วมาสึกที่วัดตาปะขาวหาย ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง เมื่อตอนอายุ 60 ปี หลังจากสึกมาแล้วก็ได้มาประกอบอาชีพขายนมบีทาเก้น ได้อยู่ 1 ปี แต่ก็ขายไม่ทันพวกเด็กรุ่นใหม่ ทำให้ขายไม่ค่อยได้ จากนั้นตนจึงคิดหาอะไรทำ และไปเก็บขยะขาย เพราะเป็นอาชีพสุจริต จึงขับรถออกตระเวนหาเก็บของเก่าขาย ภายในเขตตำบลหัวรอ ประกอบกับตนได้รับการสนับสนุนรถจักรยานยนต์จากน้องชาย และทำการต่อพวงข้าง โดยได้ใช้เงินจากเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ และเงินเก็บบางส่วนในการต่อเติม
ลุงสอน ยังบอกอีกว่า ของที่เก็บจะเป็นพวก กล่องลัง กระดาษ แก้ว ขวดพลาสติก สิ่งของต่างๆ และเศษอาหาร บางครั้งก็จะมีชาวบ้านเก็บของไว้ให้ โดยลุงสอน จะนำของที่ได้ไปรวบรวมที่บ้านพัก และนำไปขายอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะขายได้ 200 – 400 บาท สูงสุดอยู่ที่ 600 บาท และสิ่งของบางอย่างที่ไม่ได้นำไปขายก็จะเอาติดรถประดับไว้ ต่อเติมเป็นหลังคากันแดดกันฝนอีก
ของชิ้นไหนที่ยังใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น หมวกแก๊ป โมบาย เสื้อผ้า กระเป๋า ของใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะมีคนมาขอจากลุง ซึ่งลุงสอนก็ให้ฟรี ๆ ไม่คิดตัง ส่วนพวกเศษอาหารต่าง ๆ ลุงจะนำไปให้ปลาที่แม่น้ำ เพื่อเป็นทานอีกด้วย โดยเงินที่ได้จากการขายลุงจะนำไปฝากธนาคารบางส่วน และอีกส่วนก็ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ลุงสอนยังได้ให้ข้อคิดอีกว่า ของตอนสวยงามมีแต่คนอยากได้ แต่พอนานได้ก็เริ่มทิ้ง ถึงผ้าขี้ริ้วแม้ว่ามันจะสกปรกสักเพียงใด แต่อย่าลืมว่า มันชำระสิ่งของต่างๆ ให้สะอาดขึ้น
