ชลประทานแจ้งประชาชน เตรียมความพร้อมรับน้ำแม่น้ำยม พร้อมผันน้ำลงทุ่งบางระกำโมเดล

แบ่งปัน

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 พลตรี ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39/ ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 พร้อมด้วย นายอำเภอบางระกำ, ผู้แทน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ,เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักงานชลประทานที่ 3 , ผู้แทนสำนักงานชลประทานพิษณุโลก , กำนัน ตำบลบางระกำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามเตรียมการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำยมช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งการวางแผนบริหารจัดการล่วงหน้าก่อนน้ำหลากมาถึงจำนวนมาก และ เตรียมการพื้นที่บางระกำโมเดล สำหรับรองรับมวลน้ำ

จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำลำน้ำยม และการเตรียมการผันน้ำลงทุ่งบางระกำโมเดล พบว่า มวลน้ำระลอกแรกจาก จังหวัดสุโขทัย ที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่และจะมีผลกระทบกับ อำเภอบางระกำ (จุดเฝ้าระวังคือประตูน้ำบางแก้ว)ประมาณวันที่ 26 – 27 สิงหาคม 2563 ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าจุดวิกฤต 1.20 เมตร

เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักงานชลประทานที่ 3 และ สำนักงานชลประทานพิษณุโลก ได้ดำเนินการระบายน้ำผ่านประตูน้ำไปตามลำน้ำยมสายเก่าและสายใหม่เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้เตรียมระบายน้ำเข้าสู่พื้นที่รองรับน้ำบางระกำโมเดล ซึ่งจะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมได้ (ถ้าภายใน 2-3 วันนี้ ถ้าไม่มีฝนตกหนัก) รวมทั้งได้ทำการกำจัดผักตบชวาสิ่งกีดขวางบริเวณประตูน้ำเพื่อให้น้ำสามารถระบายได้คล่องตัว

หากไม่มีมวลน้ำมาเพิ่มเติมจากฝนปริมาณมาก การระบายน้ำจาก จังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งยังคงรับน้ำได้ ตาม บางระกำโมเดล สถานการณ์ในพื้นที่ สุโขทัยจะคลี่คลายในอีก 2 วัน จากนี้คงต้องเฝ้าระวังมวลน้ำที่จะเข้าสู่พื้นที่ จังหวัดพิจิตร ต่อไป

โดย กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำ ใช้ ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย บริหารจัดการและหน่วงน้ำไว้ และควบคุม ปริมาณน้ำไหล ผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก ไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตร รวมถึงทำการผันน้ำผ่าน ประตูระบายน้ำคลองหกบาท 350 ลูกบาศก์เมตร โดยผันผ่านแม่น้ำยมสายเก่า ผ่านคลองเมม – คลองบางแก้ว ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก 240 ลูกบาศก์เมตร และผันไปคลองยม – น่าน ลงสู่แม่น้ำน่าน 110 ลูกบาศก์เมตร

ด้าน นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ในจังหวัดพิษณุโลก เตรียมความพร้อมรับน้ำแม่น้ำยม จากจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะ ประชาชนและพื้นที่การเกษตร ที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำยมสายหลัก และ ริมตลิ่งแม่น้ำยมสายเก่า – คลองเมม – คลองบางแก้ว อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมือง และ อำเภอบางระกำ เฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมการขนของขึ้นที่สูง หากเกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และ ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด มวลน้ำจากจังหวัดสุโขทัย ได้ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณแม่น้ำยมสายเก่า ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยน้ำเอ่อล้นตลิ่ง เนื่องจากคาดการณ์มวลน้ำก้อนแรกที่ไหลเข้าสู่พิษณุโลก มีปริมาณกว่า 60 ล้าน ลูกบาศก์เมตรโดยเส้นทางแม่น้ำยมสายเก่า – คลองเมม – คลองบางแก้ว ในเขต อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมือง อำเภอบางระกำ ได้มีการเร่งการระบายน้ำ ผ่าน ประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง, ประตูระบายน้ำวังขี้เหล็ก และ ประตูระบายน้ำบางแก้ว ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก เบื้องต้นได้ผลักดันมวลน้ำก้อนน้ำลงสู่คลองน้ำธรรมชาติ ทั้ง 99 แห่ง ในพื้นที่ โดยเฉพาะที่บริเวณคลองแยงมุม ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม หากมีมวลน้ำเข้ามามากอีก ก็จะผันน้ำข้าทุ่ง ตามโครงการบางระกำโมเดล ที่รองรับน้ำได้ 550 ล้านลูกบาศก์เมตร