จังหวัดพิษณุโลกเปิด “จุดจำหน่ายสลากตามราคา 80 บาท” ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก อนุเคราะห์เงินประเดิมตั้งต้นกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หลังได้รับการจัดสรรจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

แบ่งปัน

วันนี้ 19 กรกกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ บริเวณหน้าประตูทางเข้าอาคารศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก(หลังเก่า) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิด “จุดจำหน่ายสลากตามราคา 80 บาท” ประจำจังหวัดพิษณุโลก ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นวันแรก โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้

หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา โดยมีแนวทางการทำจุดจำหน่ายสลากกินแบ่งตามราคา 80 บาท ในส่วนภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสลากใบเดียวและสลากรวมชุดในราคา 80 บาท โดยจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบรวมชุด จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 20 เล่ม และได้เริ่มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

สำหรับสลากของจังหวัดพิษณุโลก ได้รับความอนุเคราะห์จาก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สำหรับเงินประเดิมตั้งต้นในการจำหน่ายสลาก จำนวน 140,800 บาท ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ในการจำหน่ายสลากแต่ละงวด จะนำไปสมทบเป็นเงินกองทุนสวัสดิการข้าราชการจังหวัดพิษณุโลก หรือ สาธารณประโยชน์อื่นต่อไป โดยการจำหน่ายสลากด้วยวิธีการขายปลีกให้กับประชาชนโดยตรง ในราคาฉบับละ 80 บาท รายละไม่เกินจำนวน 5 ฉบับ และสลากฯ ที่จำหน่ายโดยจังหวัดพิษณุโลก จะประทับตราบนสลากทุกฉบับ ด้วยหมึกสีน้ำเงิน ทั้งตัวหนังสือและตัวเลข ที่มีข้อความว่า “สลากฉบับนี้จำหน่ายแล้ว 80 บาท 037-01-001”

นางสาววรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า “วันนี้เป็นการดำเนินการตามมาตรการกองสลาก ที่ให้จังหวัดพิษณุโลก จัดตั้งจุดจำหน่ายสลากตามราคา 80 บาท รวมทั้งเป็นการทดลองจำหน่ายสลาก ระยะเวลา 3 เดือน ก่อนที่กองสลากจะมีการพิจารณาว่า จะให้ดำเนินการจำหน่ายสลากต่อหรือไม่ โดยมาตรการป้องกันได้กำหนดให้ ประชาชน 1 คน สามารถซื้อได้ไม่เกิน 5 ใบ และ มีโค๊ตระบุว่าซื้อจากที่นี่ หากพบว่ามีการขายเกินราคา อาจจะลดหรืองดการจำหน่ายสลากดังกล่าว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ทำ MOU กับกองสลากไว้ และ หากมีการจำหน่ายเกินราคา ก็จะดำเนินการตามมาตรการของจังหวัดพิษณุโลก ต่อไป”