รองผู้ว่าฯพิษณุโลก นำคณะตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางพิษณุโลก ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าว เอามื้อสามัคคี ตามโครงการ “โคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์”
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นายพชรเศรฎฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางพิษณุโลก (เรือนจำชั่วคราวเขาสมอแคลง)ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี นายกฤติภพ จันทร์ภูโดม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพิษณุโลก นำตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน สำหรับเรือนจำกลางพิษณุโลก ปัจจุบันมีผู้ต้องขังกว่า 4,729 คน
รองผู้ว่าฯพร้อมคณะ ได้ตรวจระบบบำบัดน้ำเสียรอบเรือนจำ พร้อมเยี่ยมชมพื้นที่แดนพยาบาลที่ได้รับพระราชทานเครื่องมือแพทย์ คุรุภัณฑ์ทางการแพทย์และสื่อการเรียนรู้ด้านการดูแลสุขภาพผ่านมุมสุขภาพ “ราชทัณฑ์ ปันสุข” เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ศึกษาและนำไปปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี ที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังสมัครเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน หรือซีพีอาร์ สำหรับนำไปใช้กู้ชีพผู้ต้องขังป่วยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิตจากการช่วยเหลือได้ทันท่วงที และเข้าตรวจเยี่ยมระบบการควบคุมผู้ต้องขังภายในแดน 4 แดนความมั่นคงสูงสุด (Super Max) ทั้งนี้ไม่พบว่ามีปัญหาในการดูแลผู้ต้องขัง เนื่องจากมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ทุกขั้นตอน รวมทั้งการประกอบอาหารในแดน 8 สูทกรรมและการจัดเลี้ยงผู้ต้องขัง เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์และมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข มีความสะอาด อาหารถูกหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ ผู้ต้องขังได้รับประทานอิ่มอร่อยทุกมื้อ
ต่อจากนั้น ได้ร่วมลงเกี่ยวข้าว(เอามื้อสามัคคี) ตามโครงการพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” โดยแปลงนาดังกล่าวเป็นพื้นที่รกร้างของเรือนจำกลางพิษณุโลก ตั้งอยู่ที่ ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่นำร่อง 2ไร่เศษ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการฯ ขึ้น เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ด้วยการสร้างต้นแบบการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อใช้เป็นหลักสูตรอบรมผู้ต้องขังอันจะเป็นพื้นฐานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่และการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวภายหลังพ้นโทษ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ สถานศึกษา นักเรียน และกลุ่มโคกหนองนาจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 250 คน
