ลูกสาวร่ำไห้หลังตามหาแม่และพ่อเลี้ยงที่หายตัวไปนาน 5 วัน สุดท้ายพบเป็นศพอยู่ในรถกระบะคู่ใจจมดิ่งก้นคลองชลประทาน ซื่งก่อนที่ทั้งคู่จะหายตัวไปพบว่ามีการทะเลาะกันอย่างรุนแรงยังไม่แน่ใจว่ารถตกน้ำเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมเพราะพ่อเลี้ยงมักจะทะเลาะกับแม่เพราะหึงหวงเป็นประจำ
เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.อ.ชานนท์ สมฤทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งพบรถจมอยู่ในคลองชลประทาน คาดว่าจะเป็นรถที่ลูกสาวได้แจ้งความหายไว้พร้อมแม่และพ่อเลี้ยง ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา จึงประสานเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณคลองชลประทาน ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีชาวบ้านได้ดำลงไปจนพบรถต้องสงสัยอยู่บริเวณกลางคลองชลประทาน จึงได้ทำสัญลักษณ์ผูกแกลลอนลอยไว้พร้อมแจ้งชุดประดาน้ำจากสมาคมกู้ภัยข่าวภาพและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบ จากนั้นชุดนักประดาน้ำได้ทำการดำน้ำลงไปเพื่อนำสลิงผูกกับรถคันดังกล่าว และดึงขึ้นมาได้สำเร็จ พร้อมยืนยันว่าภายในรถมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 ราย สวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีขาว อยู่บริเวณฝั่งคนขับ และหญิง 1 ราย สวมกางเกงขายาวสีดำจุดสีขาว เสื้อสีแดง คว่ำหน้าพาดไปด้านหลังบริเวณเบาะข้างคนขับ ทั้ง 2 ราย อยู่ในสภาพร่างกายบวมอืดเปื่อยยุ่ย จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าว คือรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค-8136 พิษณุโลก ที่มีลูกสาวคือ นางสาวชาลินี คำยวง อายุ 27 ปี ได้แจ้งความหายไว้ พร้อมกับแม่ คือนางสาววรรณา ธิติดำรงเวศท์ อายุ 46 ปี และพ่อเลี้ยง คือนายเอื้อ ธิติดำรงเวศท์ อายุ 55 ปี ที่หายออกจากแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ ต.หัวรอ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 ธ.ค.66 และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงได้ทำการประสานตัวนางสาวชาลินี คำยวง มาที่เกิดเหตุและยืนยันว่า ทั้ง 2 รายที่เสียชีวิตภายในรถนั้นเป็นแม่และพ่อเลี้ยงของตนจริง
นางสาวชาลินี คำยวง ได้เล่าให้ฟังว่าแม่ของตนและพ่อเลี้ยงอยู่กินกันมา 20 ปี พักอาศัยอยู่แคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ ต.หัวรอ กันทั้ง 2 คน เพราะรับเหมาทำงานก่อสร้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ ส่วนตนอยู่บ้านในพื้นที่ ต.แก่งโสภา ไม่ค่อยได้เจอกันแต่จะคุยกันกับแม่ทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 3 ธ.ค.66 ที่ผ่านมาตนติดต่อแม่ไม่ได้วันที่ 4 ธ.ค.66 จึงเดินทางมาหาที่แคมป์คนงานก่อสร้างก็ไม่พบตัว ทราบเพียงว่ามีคนพบเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันและพ่อเลี้ยงได้กระชากแม่ขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวและขับรถออกไป ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 3 ธ.ค.66 แล้วไม่กลับมาอีกเลย โดยตรวจสอบภายในห้องพักของทั้งคู่พบคราบเลือดอยู่จำนวนหนึ่งตนจึงได้แจ้งความคนหายไว้ และทำการขอตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ ก็พบว่าโทรศัพท์ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทางทั้ง 2 เครื่อง พอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็พบว่ามีร่องรอยของล้อรถพุ่งลงไปในน้ำ ก็ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหามาตั้งแต่วันที่ 4 แต่ก็ยังไม่พบ จนวันนี้ได้ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพหาปลาในแม่น้ำน่านมาช่วยงมหา พร้อมกับร้องขอให้ทางชลประทานพร่องน้ำออกจนสุดท้ายได้พบรถและร่างแม่กับพ่อเลี้ยงดังกล่าว นางสาวชาลินี คำยวง ได้เล่าต่ออีกว่า ปกติแม่ขอตนและพ่อเลี้ยงมักจะทะเลาะกันบ่อยครั้งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่พ่อเลี้ยงหึงหวงแม่ของตน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นรอยเลือดที่ห้องคืออะไร และสาเหตุที่รถตกน้ำจนเสียชีวิตทั้งคู่นั้นเป็นอุบัติเหตุหรือการตั้งใจ ต้องรอเจ้าหน้านำร่างของทั้ง 2 คนไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
จากการสอบถามนายสุชาติ เกิดธารา อายุ 45 ปี เล่าให้ฟังว่าตนได้รับการร้องขอจากญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มางมค้นหารถกระบะสูญหายภายในคลองชลประทาน เพราะมีร่องรอยของล้อรถพุ่งรถไปในคลอง ซื่งทางชลประทานได้ทำการระบายน้ำออกไปจนระดับความลึกของน้ำเหลือประมาณ 3 เมตรกว่า จึงได้ร่วมกับเพื่อนร่วมอาชีพหาปลาในแม่น้ำน่านซึ่งพอมีความชำนาญในการดำน้ำอยู่บ้าง ดำไล่ลงไปตั้งแต่จุดที่คาดว่ารถน่าจะตกไล่ไประยะทางประมาณ 150 เมตรก็พบวัตถุต้องสงสัยเมื่อคล่ำดูก็พบว่าเป็นรถกระบะแน่นอน ลักษณะเหมือนรถจอดอยู่ปกติหันหน้าไปทางทิศเหนือ จึงได้ผูกแกลลอนลอยเป็นทุนไว้และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยศูนย์พิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวร ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของแต่ละคนอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรก่อนจะส่งมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป