สตรีทฟู้ด ในพิษณุโลกไม่เคยแพ้ชาติใดๆ ในโลก ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปตามรอย บุก 10 ร้านสตรีทฟู้ด ย่านราชพฤษก์ พิษณุโลก ร้านอร่อยต้องไป จะมีร้านไหนกันบ้าง ตามเราไปดูกันเลยครับ
เริ่มต้นที่ร้านแรกกันเลย “SALAD BAR” เน้นผักสดปลอดสารพิษ และน้ำสลัดโฮมเมด ที่ทางร้านปลูกผักทำฟาร์มเป็นของตัวเอง รับประกันความสดกรอบ มีวิตามินสูง คุณภาพดี ปลอดสารพิษ 100% เมนูแนะนำ สลัดผลไม้ ธัญพืช สลัดโรล และแซนวิช ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท เปิดร้านตั้งแต่ 09.00 – 21.00 น.
ร้านต่อมา“ไก่ทอดรสแซ่บ” กลิ่นหอมยั่วใจมาแต่ไกลด้วยด้วยกลิ่นของไก่ทอด และกระเทียมเจียวซึ่งทอดในน้ำมันที่สะอาดและเปลี่ยนใหม่ทุกวัน ทางร้านขายปีกไก่ และน่องไก่ทอด มีให้เลือก 2 ขนาด น้ำพริกปลาทู แกงอ่อมไก่ พร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ หุงใหม่ไม่มีค้างคืน ราคาเริ่มต้นที่ 5 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 15.30-21.00 น.
“บิ๊กแอ็ด รวมแมลงพิษณุโลก” จุดเด่นคือกรรมวิธีการคลุกซอสที่ถึงเนื้อจนได้รสชาติที่ทำให้ลูกค้าหลายคนติดใจ สินค้าทำวันต่อวัน มีทั้งหนอน กระเพาะไก่ ตั๊กแตน แมลงป่อง กุ้ง แมลงดา ถึงแม้รูปร่างหน้าตาจะไม่น่าทานเท่าไร แต่รับรองได้ว่าหากได้ทานแล้วจะติดใจ แถมยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารเพียบ เลยทำให้ใครหลายคนติดใจในรสชาติของเจ้าแมลงทอดจนถอนตัวไม่ขึ้น ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 16.00-21.30 น.
“ไก่ทอดอเมริกัน 15” ไก่หมักด้วยสูตรลับเฉพาะ แล้วเอาไปคลุกกับแป้งสูตรเด็ดของทางร้าน เอาไปทอดให้สุก เหลืองกรอบ ใครๆ ก็รู้ว่าอกไก่เป็นส่วนที่มีความนุ่ม เมื่อเอาไปหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ เอาไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน เมนูความอร่อยให้เลือกมากมายทั้งไก่เเซ่บ ไก่ไม่มีกระดูก รสเผ็ดจัดจ้านถึงใจ เเถมยังมีไก่ป๊อบรสชาติอร่อยๆ ราคาไม่เเพงเริ่มต้นเพียง 10 บาทเท่านั้นเอง ร้านเปิดตั้งแต่ 15.00-23.30 น.
“ตำตำ ยำมะม่วง” ร้านยำสุดเเซ่บถูกปากถูกใจวัยรุ่นต้องร้านนี้เลย ชนิดที่ว่า ใครไปมีอด เพราะร้านนี้ของเขาเเน่จริงอะไรจริง คนเเน่นทุกวันเต็มหน้าร้าน มีทั้งยำ ตำ บอกเลยร้านนี้เขาการันตีความสดใหม่ของปูแต่ละตัว ทั้งตัวใหญ่ สดใหม่ โดยเฉพาะ ตำเหลเล ที่ว่ามีอะไรก็ใส่มาให้หมดเลย ราคาไม่แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นที่ 40 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 16.00-22.00 น.
“ดา น้ำเต้าหู้” ร้านน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ที่มีเป็นสูตรตัวพอดีคำ ไม่แข็ง ไม่เหนียว ส่วนสังขยาใบเตย และนมข้นเป็นสูตรของทางร้านเน้นหอม หวาน มัน เพื่อเพิ่มรสชาติให้ปาท่องโก๋ทุกชิ้น ทางร้านบอกว่าน้ำมันที่ใช้ทอด ไม่มีคำว่าเหม็นหืน เพราะ “ใช้น้ำมันใหม่ ทุกวัน” นอกจากปาท่องโก๋ ยังมีน้ำเต้าหู้ที่มีความหอมเฉพาะตัว ยังมีเครื่องต่างๆ ที่ใส่มากับน้ำเต้าหู้แบบบล้นทะลักจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 7 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 16.00-22.30 น.
“ก๋วยเตี๋ยว โกเด้ง” ร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีทั้งลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ เกี๊ยวกรอบ หมูชิ้น หมูสับ เนื้อสด เนื้อเปื่อย แน่นเต็มจาน เมนูแนะนำ คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่ปรุงรสน้ำยำได้แซ่บจัดจ้านถึงใจ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี จะสั่งเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือบะหมี่ ก็อร่อยไม่แพ้กัน เพิ่มความอร่อยด้วยหมูสับและหมูชิ้นที่ลวกออกมาได้นุ่ม ไม่เหม็นกลิ่นคาว อีกทั้งยังโรยเกี๊ยวกรอบให้เคี้ยวกันเพลินๆ อีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 16.00 – 01.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
“ฟู หม่าล่า” สำหรับความเด็ดดวงของร้านนี้อยู่ที่ความเข้มข้น เผ็ดได้ใจของพริกหม่าล่าสูตรลับเฉพาะของทางร้าน แถมยังมีเนื้อหมักนุ่มๆ ที่ชุ่มฉ่ำ กัดทีนี่เผ็ดฟินจนถึงเมืองจีน ที่สำคัญราคาไม่แพง อร่อยและยังสะอาด ราคาไม้ละ 10 บาท มีทั้ง หมู ไก่ เนื้อโคขุน ลูกชิ้น ผัก ข้าวโพด ฯ ร้านเปิดบริการตั้งแต่ 16.00 – 22.00 เฉพาะวันเสาร์มีบุฟเฟ่ต์ ในราคา 49 บาท เรียกได้ว่าอิ่มไม่อั้นกันเลยที่เดียว
“โจ๊กสูตรข้าวข้น (เฮี่ยเดี่ยว)” ความพิเศษของโจ๊กที่นี่ อยู่ที่เนื้อโจ๊กข้นกำลังพอดี ทั้งหมูนุ่มชิ้นโต ๆ ตับชิ้นใหญ่ ๆ มีเมนูโจ๊กอร่อย ๆ อย่างโจ๊กหมู (ทั้งแบบธรรมดาและพิเศษ) โจ๊กหมู ตับ และไข่ เมนูโจ๊กแสนอร่อยของที่นี่ คือ โจ๊กหมูสับใส่ไข่ เนื้อโจ๊กเนียนและข้น หมูสับปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอเข้าปากกำลังดี โรยพริกป่นอีกนิด อร่อยกลมกล่อมแบบสุด ๆ ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 15.30 – 22.00 น.
ปิดท้ายด้วยร้านของหวาน “สามพี่น้อง ทับทิมกรอบ” ทีเด็ดของร้านอยู่ที่กะทิ เลือกใช้แค่กะทิอย่างดีที่สุดอย่าง กะทิมะพร้าวจากสวน จ.ชุมพร ที่มีความหอมมันเป็นพิเศษ ทำให้ขนมหวานของร้านสามพี่น้องมีรสชาติที่พิเศษกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ร้านมีทั้ง ทับทิมกรอบ ซ่าหริ่ม เนื้อมะพร้าวกะทิ ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 16.00 -22.00 น