ปิยะ ไกรทอง ที่ปรึกษาทีม วัดโบสถ์ ซิตี้ ยังยืนยันเจตนาเดิม เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้โพสต์เฟสบุ๊ค ส่วนตัว มีข้อความระบุว่า
ผมจำเป็นต้องตัดสินใจ เพื่อแสดงความรับผิดชอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้แฟนบอลทั่วประเทศเห็นว่า สโมสรวัดโบสถ์ซิตี้ มีความมุ่งมั่นมากพอที่จะทำฟุตบอลเพื่อฟุตบอล ทำฟุตบอลให้มีสปิริต สวยงาม ไม่เคยส่งเสริมในเรื่องการเล่นนอกเกมของนักเตะเลยแม้แต่น้อย.
ผมยอมแลกความฝัน แลกทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเพียรพยายามสร้างมันมา เพื่อปกป้องสโมสรแห่งนี้ ไม่ยอมให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นสโมสรที่เล่นแบบไร้สปิริต เล่นบอลสกปรก
กว่าเราจะเดินมาถึงจุดนี้ พวกเราทุ่มเทแรงกาย แรงใจ กำลังทรัพย์ลงไปเท่าไหร่ ผมกล้าที่จะสละได้ เพื่อพิสูจน์ความจริงใจในการทำฟุตบอลของผม
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่า ผมหาทางลงหรือเปล่า นั่นเพราะคุณยังไม่รู้จักผมดีพอ
ผมมีพนักงานที่ต้องดูแลจ่ายเงินเดือนร้อยกว่าชีวิต กับเงินเดือนนักเตะ 20-30 คน ผมไม่เคยมีปัญหา ผมไม่เคยจ่ายเงินเดือนนักเตะล่าช้า หรือขาดตกบกพร่องแม้แต่สลึงเดียว เพราะผมต้องการทำให้เป็นมืออาชีพมากที่สุด…ผมถือว่านักเตะทุกคนคือหนึ่งในพนักงานบริษัทของผม…ที่ผมต้องรับผิดชอบ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำเสียดสี ทุกคำดูถูก ทุกคำด่าต่างๆนานาที่เกิดขึ้น
ผมยังยืนยันในเจตนาเดิม ขอยืดอกรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้อย่างสูงสุด เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสโมสรต่อไปว่าจะทำทุกอย่างไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด.
และขอยืนยันกับแฟนคลับหนูนาที่เคารพรักว่า ถึงแม้ไม่มีผมแล้ว “วัดโบสถ์ ซิตี้ จะยังคงอยู่ใน ไทยลีก 3 ปี 2020 แน่นอนครับ”
ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า “หนูนาจอมโหด” วัดโบสถ์ ซิตี้ จะมีการทำทีมไปในทิศทางใดต่อไป ในฟุตบอลออมสินลีกโปร (T3) ในฤดูกาลหน้า
ขอบคุณภาพจาก watbot city